วันที่ (23 มิถุนายน 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดชลบุรี-ระยอง พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และคณะฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างท่าเรือ แหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนงานก่อสร้างงานทางทะเล โดยมีนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. ผู้บริหาร กทท. ผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการฯ และผู้แทนกิจการร่วมค้า CNNC ร่วมให้การต้อนรับ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข รายงานว่าการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนงานที่ 1 งานก่อสร้างงานทางทะเล มีกิจการร่วมค้า CNNC เป็นผู้รับจ้าง มูลค่างานรวม 21,320 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยงานถมทะเลทั้งหมดประมาณ 2,846 ไร่ หรือ 4.5 ล้านตารางเมตร งานขุดลอกร่องน้ำและแอ่งจอดเรือให้มีระดับความลึก 18.5 เมตร และงานเขื่อนกันคลื่น โดย กทท. ได้ออกหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้างเริ่มเข้าดำเนินการก่อสร้างเมื่อพฤษภาคม 2564 “ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผมมารับตำแหน่งได้สั่งการทุกหน่วยงานเร่งรัดงานก่อสร้าง การบริหารสัญญา ซึ่งขณะนั้นยังมีความคืบหน้าน้อยมาก จนกระทั่งสามารถส่งมอบงานถมทะเลพื้นที่ 1 ได้เมื่อสิงหาคม 2565 และงานถมทะเลพื้นที่ 2 เมื่อตุลาคม 2566 ในช่วงที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้มาตรวจราชการและติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างทางทะเล เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 มีความคืบหน้าเพียง 13.26% พร้อมได้สั่งการให้ กทท. เร่งรัดการก่อสร้างให้ทันตามแผน หลังจากนั้น กทท. ได้กวดขัน ติดตามการบริหารสัญญา และควบคุมการทำงานของผู้รับจ้างตามข้อสั่งการ รวมถึงนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แต่งตั้งคณะทำงานติดตามการก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 (ส่วนที่ 1) งานก่อสร้างงานทางทะเล เพื่อเร่งรัดการปฏิบัติงานในรายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งคณะทำงานฯ ได้มาตรวจติดตามเป็นประจำทุกเดือนและล่าสุดต้นเดือนมิถุนายน คณะกรรมการ กทท. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ก่อสร้างและท่านปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานกรรมการ กทท. ได้แต่งตั้งคณะทำงานด้านวิศวกรรมเป็นการเฉพาะ เพื่อมากำกับงานด้านวิศวกรรมให้เป็นไปตามมาตรฐานและตามเงื่อนไขสัญญา เพื่อให้สามารถส่งงานการก่อสร้างได้ตามแผน จึงทำให้ในช่วง 7 เดือนสามารถเร่งรัดได้เนื้องานเพิ่มขึ้นกว่า 17%”
ผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะ 3 รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการส่วนที่ 1 งานก่อสร้างงานทางทะเลว่า “ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ดำเนินงานได้ 31.12% จากแผนปฏิบัติงาน 35.11% แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะดำเนินงานอย่างเต็มที่ แต่ยังคงล่าช้ากว่าแผน 3.99% ซึ่งผู้ควบคุมงานก็ได้จัดทำแผนเร่งรัดการปฏิบัติงาน โดยเพิ่มเครื่องจักรทางบก ทางน้ำ และแรงงานให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้สามารถขุดลอก ได้มากกว่า 2,000,000 ลบ.ม. ต่อเดือน ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ได้กำกับดูแลและควบคุมเร่งรัดการทำงานให้ ผู้รับจ้างมีผลงานโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3% ต่อเดือน”