ปล่อยขบวนรณรงค์สร้างการรับรู้ รับการฉีดวัคซีนกลุ่ม 608

วันที่ 14 ก.ย 2564 นายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอชัยบุรี เป็นประธานปล่อยขบวนรณรงค์สร้างการรับรู้ในการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสโคโรน่า 2019 โดย นายไชยา ไชยชนะ สาธารณสุขอำเภอชัยบุรี กล่าวรายงาน ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอชัยบุรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำนันผู้ใหญ่บ้าน นายก อปท. อสม. อส. เข้าร่วม นายอำเภอชัยบุรีกล่าวว่า ที่ผ่านมาทางอำเภอได้จัดกิจกรรมรณรงค์มาโดยตลอด ทั้งการประชาสัมพันธ์ และเดินเคาะประตูบ้านทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เพราะการได้รับวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญ อย่างน้อยก็ช่วยให้เกิดความมั่นใจ และมีภูมิคุ้มกันสามารถป้องกันอาการรุนแรงหากต้องรับเชื้อนั้นมา ที่สำคัญการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับวันนี้การรณรงค์เน้นใช้รถประชาสัมพันธ์ในหมู่บ้าน ทั่วทั่งอำเภอชัยบุรีและมีกิจกรรม อสม.ร่วมกับเจ้าหน้าที่เคาะประตูบ้านให้ความรู้ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19


นายไชยา ไชยชนะ สาธารณสุขอำเภอชัยบุรี กล่าวว่า อำเภอชัยบุรีมีกลุ่มเป้าหมายที่ต้องฉีดวัคซีน จำนวนประมาณ 17,000 คน คิดเป็น 70%ของประชากรอำเภอชัยบุรี แยกเป็นกลุ่มบุคคลทั่วไป 12,000 คน ผู้สูงอายุ 2,986 คน ผู้ป่วย 7 โรค 2,822 คน คนตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ 48 คน ซึ่ง ศคบ ได้กำหนดให้ฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ให้ได้จำนวน 70% ภายใน30 กันยายน 2564 ซึ่งขณะนี้อำเภอชัยบุรี ฉีดไปได้รวม 3,326 คนคิดเป็น 56.80 % การร่วมกันรณรงค์สร้างการรับรู้ฉีดวัคซีนให้บุคคลกลุ่มเปราะบาง 608 เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนทุกคนที่สมัครใจรับวัคซีน โดยมีการขึ้นทะเบียนรับรองให้ใช้โดยคณะกรรมการอาหารแลยา(อย.) ซึ่งทำให้มั่นใจว่าวัคซีนที่จะนำมาใช้ทุกตัวในประเทศไทยจะต้องมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยต่อผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งวัคซีนที่มีใช้ในประเทศไทยขณะนี้ เข็มแรกเป็นวัคซีนSinovac และเข็มที่ 2 เป็นวัคซีน AstraZenecaโดยให้ในผู้ที่มีอาย 18 ปีขึ้นไป ต้องได้รับวัคซีนทั้งหมด 2 ครั้ง ห่างกัน 3-4 สัปดาห์


สำหรับกลุ่มเป้าหมายระยะแรก คือบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข ด่านหน้า กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสโรคสูง ผู้นำบุคลากรครู และกลุ่มเปราะบางได้แก่กลุ้มเป้าหมาย 608 คือ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจโรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดุเลือดสมองโรคเบาหวานโรคมะเร็ง โรคอ้วนที่มีน้ำหนักตั๋วเกิน 100กิโลกรัม และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มเป้าหมายในระยะถัดไป คือ ประชาชนทั่วไป อายุตั้งแต่ 18-59 ปี

สันทัด  เจ็ดเสมียนใหม่  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุราษฎร์ธานี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผบก.ภ.ปทุมฯ ยันแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา "พีช บีเอ็ม" แค่เบื้องต้น เร่งสอบสภาพรถ คำให้การลุงป้า นำพิสูจน์ฟ้องผิด
นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ เจ้าของฉายา "สิงห์สนามศุภฯ" เสียชีวิตแล้วในวัย 77 ปี
"กองทัพบก" เสียใจ สูญเสีย "พ.อ.พิฆราช" นายทหารจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกู้ภัยเหตุตึกสตง.ถล่ม ตั้งแต่ 28 มี.ค.จนนาทีสุดท้าย ไม่เคยหยุดภารกิจ
อย่าหลงเชื่อ "คลิปวัดร่องขุ่นถล่ม" ว่อนโซเชียลฯ "อ.เฉลิมชัย" ลั่น AI มันร้าย
"ไพศาล" เผย "อนุทิน" พูดเองภท.ไม่มีปัญหาร่วมรัฐบาล ยังสนิทแน่นแฟ้น "ทักษิณ"
"ท็อป วราวุธ"นำประชุมพรรคชาติไทยพัฒนา เผยยึดคำพ่อบรรหาร เน้นทำงานให้ปชช. สร้างพันธมิตรการเมือง
"นายกฯ" ขอบคุณทุกภาคส่วน พอใจนโยบายลดตายเจ็บ 7 วันอันตราย ลดลงกว่าปีที่แล้วกว่า 25%
"นทท.ต่างชาติ" ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล เริ่ม 1 พ.ค.นี้ ตามกฎใหม่
เปิดเทอมนี้ ครูทุกคนต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” หลังออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย
"อุตุฯ" เตือน 49 จังหวัด รับมือฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง กทม.โดนด้วย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น