รัสเซียแถลง ยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐโจมตีไครเมีย ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 4 ราย รวมเด็ก 2 บาดเจ็บอีกกว่าร้อย ลั่นสหรัฐต้องรับผิดชอบ
กระทรวงกลาโหมมอสโกระบุ กองทัพยูเครนได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS ที่ผลิตโดยสหรัฐหลายลูก ใส่แหลมไครเมียของรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก มิคาอิล ราซโวซาเยฟ ผู้ว่าการเซวาสโทพอล ในรายงานครั้งแรกระบุว่า การโจมตีดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย รวมเด็ก 2 ราย ต่อมาประกาศ ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 124 ราย รวมถึงเด็ก 27 ราย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันการโจมตีของยูเครน ซึ่งระบุว่า เกิดขึ้นเมื่อประมาณเที่ยงตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เป็นการยิงขีปนาวุธ ATACMS จำนวน 5 ลูก โดย 4 ลูกถูกทำลายกลางอากาศ อย่างไรก็ตาม 1 ลูกที่เหลือ ถูกทำลายในเวลาต่อมา ทำให้คลัสเตอร์บอมบ์จากขีปนาวุธที่ตกลงมาที่เซวาสโทพอล ฆ่าชีวิตพลเรือน พร้อมทิ้งท้ายว่า การกระทำดังกล่าวจะไม่ถูกทิ้ง ไว้โดยไม่มีการตอบสนอง
วิดีโอที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นผู้คนวิ่งหนีออกจากชายหาดในขณะที่เกิดระเบิด ขณะที่สำนักข่าวท้องถิ่นรายงาน โดยอ้างพยานว่า มีหญิงสูงอายุคนหนึ่งถูกสังหารขณะว่ายน้ำในทะเล
คลัสเตอร์บอมบ์หรือระเบิดลูกปราย เป็นระเบิดที่บรรจุลูกระเบิดขนาดเล็กๆ ไว้ภายในจำนวนมาก เมื่อระเบิดกลางอากาศจะปล่อยลูกระเบิดย่อยให้กระจายเป็นวงกว้าง มันถูกห้ามใช้ในกว่า 100 ประเทศ รวมถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี อาวุธประเภทนี้ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อพลเรือน เนื่องจากอาวุธยุทโธปกรณ์มักกระจายไปทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่ และหากยังไม่ระเบิดสามารถอยู่บนพื้นได้เป็นเวลาหลายปี
ทั้งสหรัฐ ยูเครน และรัสเซียไม่ได้ลงนามในการห้ามใช้คลัสเตอร์บอมบ์ อย่างไรก็ตาม ในฤดูร้อนปี 2566 เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียในขณะนั้น กล่าวว่า รัสเซียจะไม่ใช้อาวุธประเภทนี้โจมตียูเครนด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า รัสเซียอาจยกเลิกนโยบายนี้
สหรัฐประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ว่าจะจัดหาคลัสเตอร์บอมบ์ให้กับยูเครน ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจในรัสเซีย ในขณะนั้น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่า ยากมากแต่มีเหตุผล เนื่องจากยูเครนกำลังพ่ายแพ้และสูญเสียอย่างหนัก
ก่อนหน้านี้ ยูเครนพยายามใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีไครเมีย ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม อันเดรย์ เบลูซอฟรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียได้ยิงสกัด ATACMS กว่าสิบลูก ที่มุ่งเป้าไปที่สะพานไครเมีย ทำให้สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้หลายร้อยคน