“บิ๊กโจ๊ก” ขู่ฟ้องนายกฯ จี้สั่งผบ.ตร.ถอดคำสั่งให้ออกจากราชการ

"บิ๊กโจ๊ก" ขู่ฟ้องนายกฯ จี้สั่งผบ.ตร.ถอดคำสั่งให้ออกจากราชการ

ข”บิ๊กโจ๊ก” ขู่ฟ้องนายกฯ จี้สั่งผบ.ตร.ถอดคำสั่งให้ออกจากราชการ

วันที่ 24 มิ.ย 67 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึง เหตุผลที่มีการไปร้อง ก.ตร. กรณีการออกคำสั่งให้ออกจากราชการโดยไม่เป็นธรรม ว่า เนื่องจากว่าการร้องทำได้ 2 ส่วน นั่นคือการร้องพิทักษ์คุณธรรม และร้องต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. แต่นายกรัฐมนตรี ต้องมีการเอาเข้าที่ประชุม ก.ตร. เพื่อไม่ให้มีใครเสียหน้า โดยการใช้มติ ก.ตร. ไปสั่ง ผบ.ตร. ให้เพิกถอนแก้ไขคำสั่งตาม พ.ร.บ. แต่ทางนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการเพิกถอน ตนจึงมีการไปยื่นต่อ ป.ป.ช. เพื่อที่จะเป็นการวอร์นนิ่ง ว่า นายกรัฐมนตรี สวมหมวก 2 ใบ นายกฯ เป็นประธาน ก.ตร. และเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้บังคับบัญชา ผบ.ตร. เมื่อนายกฯ ออกมาพูดแล้วว่าคำสั่งไม่สมบูรณ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รู้อยู่แล้วว่าผู้ใต้บังคับบัญชาตัวเอง คือ ผบ.ตร. ปฏิบัติไม่ถูกต้อง นายกฯก็ต้องสั่ง ผบ.ตร.ให้เพิกถอน ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีละเลย เพิกเฉย ไม่ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตนก็ต้องดำเนินคดีนายกรัฐมนตรีตามกฎหมาย

บิ๊กโจ๊ก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนเรื่อง การกลับมาทำหน้าที่ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพราะถือเป็นศาลปกครองของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีอำนาจชี้ว่าจะให้ตนกลับไปทำหน้าที่เลยหรือไม่

แม้ว่าผลของกฤษฎีกา จะไม่มีผลทางกฎหมาย แต่กฤษฎีกาเป็นมือกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาในคดีอื่นๆ ศาลก็รับฟังความเห็นของกฤษฎีกา พร้อมย้ำว่า อย่าลืมว่าองค์คณะกรรมการกฤษฎีกามีใครบ้าง ที่ประกอบไปด้วยอดีตประธานศาลฎีกา รวมถึงอดีตเลขากฤษฎีกา และปลัดกระทรวงยุติธรรม ฉะนั้นมติ 10:0 ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด

 

และการที่จะกลับเข้า ตร. เมื่อไหร่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่จะกลับหรือไม่นั้น ต้องว่าไปตามกฎหมาย แต่ตนจะชี้ให้เห็นว่าวันนี้จะต้องยึดหลักตามกฎหมาย ถ้าวันนี้ยังให้ความยุติธรรมกับตนเองไม่ได้ ในวันข้างหน้าจะให้ความยุติธรรมกับตำรวจ และประชาชนได้อย่างไร ซึ่งวันนี้หลักกฎหมายต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะมี พ.ร.บ.ตำรวจฯ ไว้ทำไม

 

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า คำสั่งใครเป็นคนเซ็นจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งตนจะดำเนินคดีโดยยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ต่อไป

ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯ ออกมาแถลงแทนนายกฯ ในคำสั่งย้ายกลับ ผบ.ตร. จะถือเป็นการลอยตัวของนายกฯ หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ นายกฯ จะต้องทำหน้าที่ ถ้าท่านไม่ลอยตัวและตัดสินใจทุกอย่างก็จะไม่เกิด ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับผู้นำ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีรัฐมนตรีประจำกระทรวง ฉะนั้นนายกฯ ก็เปรียบเหมือนรัฐมนตรีประจำกระทรวง เมื่อมีปัญหาจะต้องลงมาแก้ และย้ำว่าจะต้องไม่ลอยตัว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น