“ผลไม้ควรกินก่อนหรือหลังอาหาร” เปิด 5 ความเชื่อเกี่ยวกับการกิน “ผลไม้”

ผลไม้ควรกิก่อน-หลังอาหาร

ขึ้นชื่อว่า “ผลไม้” หลายคนรู้ดีว่าเป็นแหล่งรวมวิตามิน แต่ช่วงเวลาของการรับประทานผลไม้ที่ดีที่สุด เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ว่า “ผลไม้ควรกินก่อนหรือหลังอาหาร” ไปหาคำนอบกัน

 

Top Nesw รายงาน “ผลไม้ควรกินก่อนหรือหลังอาหาร” หรือ เราควรกินผลไม้ตอนไหนดีที่สุด เป็นคำถามโลกแตก รวมทั้งในโลกออนไลน์ มีการแชร์ข้อมูลและความเชื่อมากมาย เกี่ยวกับช่วงเวลา และพฤติกรรมในการกินผลไม้ พูดถึงมากที่สุด 5 ข้อ เกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกินผลไม้เปรียบเทียบกับข้อเท็จจริงแล้วมีอะไรบ้าง

Sports woman eating salad, standing with lots of healthy fresh food on the kitchen. Concept of losing weight, sports and healthy eating

ข่าวที่น่าสนใจ

  • ผลไม้ควรกินก่อนหรือหลังอาหาร

 

นักโภชนาการระบุว่า ไม่มีช่วงเวลาที่ดีหรือไม่ดี สำหรับการกินผลไม้ เพราะผลไม้ทุกชนิด มีคุณค่าทางโภชนาการและทำให้มีสุขภาพดี สามารถกินผลไม้ได้ทั้งก่อน หรือ หลังอาหาร เพราะไม่ว่าจะกินตอนไหน ก็ได้รับวิตามินครบถ้วนไม่ต่างกัน แต่หากกินผลไม้ที่มีกรดสูง หรือมีรสเปรี้ยวขณะท้องว่าง อาจทำให้รู้สึกแสบท้อง หรือไม่สบายท้องได้ นักโภชนาการจึงแนะนำให้กินผลไม้รสเปรี้ยว หลังอาหารอย่างน้อย 20-30 นาที เพื่อให้ผลไม้ที่กินเข้าไปตกสู่ลำไส้เล็ก และดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่

 

นอกจากนี้ ผลวิจัยยังพบว่า สารฟลาโวนอยด์ หรือ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มักพบในผลไม้จำพวก องุ่น มะนาว ส้ม และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวทั้งหลาย จะช่วยเสริมสร้างผนังเส้นเลือดฝอย ทำให้ร่างกายสะอาด ช่วยลดน้ำหนัก มีฤทธิ์ต้านหวัด มีสารต้านมะเร็ง เมื่อกินหลังอาหาร จะทำหน้าที่เหมือนคนเก็บกวาดซากขยะในร่างกายเลยทีเดียว

Close-up of woman’s hands holding a bowl with fresh fruit while standing at home.
  • 5 ความเชื่อเกี่ยวกับการกิน ผลไม้

 

ความเชื่อที่ 1 : ให้กินผลไม้ในขณะที่ท้องว่าง

 

นี่คือหนึ่งในความเชื่อที่พบได้บ่อยที่สุด ที่กล่าวว่า การกินผลไม้พร้อมอาหารจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ช้าลง ส่งผลให้อาหารค้างบูดเสียอยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดแก๊ซ และอาการไม่สบายท้องต่างๆ ขึ้นได้ ในความเป็นจริงคือ เส้นใยอาหารในผลไม้ อาจทำให้อาหารในกระเพาะถูกย่อยช้าลงได้ แต่จะช้าลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้เป็นสาเหตุให้อาหารตกค้างอยู่ในกระเพาะอย่างยาวนาน จริงๆ แล้วเส้นใยอาหารในผลไม้ยังช่วยให้เรารู้สึกอิ่มได้นานขึ้นอีกด้วย

 

ความเชื่อที่ 2 : การกินผลไม้ก่อนหรือหลังอาหาร จะทำให้ได้สารอาหารลดลง

 

ความเชื่อนี้ต่อเนื่องมาจากความเชื่อที่ 1 ที่ว่า ให้กินผลไม้ในขณะท้องว่าง เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน ซึ่งไม่เป็นความจริง ร่างกายเราถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการดึงสารอาหารจากอาหารที่เรากินเข้าไป เมื่อเรากินอาหารเข้าไป อาหารจะถูกส่งไปย่อยที่ลำไส้ทีละน้อย ลำไส้เล็กนั้นถูกออกแบบให้ดูดซึมสารอาหารให้ได้มากที่สุด มีความยาวได้ถึง 6 เมตร และมีพื้นที่ดูดซึมอาหารมากกว่า 30 ตารางเมตรเลยทีเดียว ระบบย่อยอาหารนั้นมีความพร้อมอย่างยิ่งในการย่อยและดูดซึมสารอาหารจากผลไม้ ไม่ว่าจะกินตอนท้องว่าง หรือพร้อมอาหารอื่นก็ตาม

 

ความเชื่อที่ 3 : คนที่เป็นโรคเบาหวาน ควรกินผลไม้ก่อนหรือหลังอาหารเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง

 

ความเชื่อนี้มาจากการที่คนเป็นเบาหวาน มักมีปัญหาในการย่อยอาหาร จึงเกิดความคิดที่ว่า การกินผลไม้แยกจากมื้ออาหารน่าจะมีส่วนทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น แต่ก็ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน และยังอาจทำให้คาร์บ และน้ำตาลในผลไม้เข้าไปในกระแสเลือดได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงอีกด้วย จึงควรกินผลไม้พร้อมอาหาร หรือของว่างที่มีโปรตีนสูง มีใยอาหารและไขมัน จะช่วยให้กระเพาะอาหารส่งอาหารไปยังลำไส้ช้าลง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นอย่างช้าๆ ผลไม้สำหรับคนเป็นโรคเบาหวานควรเลือกชนิดที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำอีกด้วย

Fresh fruit background. Healthy eating and dieting concept. Winter assortment. Top view

ความเชื่อที่ 4 : เวลาเช้าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกินผลไม้

 

ไม่มีเหตุผลและหลักฐานใดๆ สนับสนุนความเชื่อนี้ มีการกล่าวว่า การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงอย่างผลไม้ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และเป็นการปลุกระบบย่อยอาหารให้ตื่น ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต ก็จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นชั่วคราวอยู่แล้ว ในขณะที่กลูโคสกำลังถูกดูดซึม อีกทั้ง ระบบย่อยอาหารของเรานั้น มีความพร้อมที่จะทำงานตั้งแต่ตอนที่ลิ้นสัมผัสกับอาหารแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดของวันก็ตาม ความจริงคือผลไม้นั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราในทุกเวลา

 

ความเชื่อที่ 5 : ไม่ควรกินผลไม้หลังบ่ายสองโมง

 

ความเชื่อนี้คล้ายกับความเชื่อที่ 4 ว่า การกินผลไม้หลังช่วงบ่ายสองโมง จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งร่างกายอาจไม่สามารถจัดการได้ทันเวลาก่อนนอน ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้ ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ชี้ว่า การกินผลไม้หรือคาร์บหลังบ่ายสองโมงจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้มากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ร่างกายคนเราไม่ได้เปลี่ยนจากการเผาผลาญแคลอรีมาเป็นสะสมไขมันในช่วงเวลาที่เรานอนหลับ อัตราการเผาผลาญพลังงานมีแนวโน้มที่จะลดลงในเวลาที่เรานอน แต่ก็ยังเผาผลาญแคลอรีในปริมาณไม่น้อย เพื่อให้ร่างกายทำงานอยู่ต่อไป มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า การกินผลไม้และผักจำนวนมากระหว่างวัน จะส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้ และยังเป็นหนทางที่ดีที่จะทำให้เราได้สารอาหารอย่างเพียงพอ หากเราหลีกเลี่ยงผลไม้ในช่วงบ่ายและก่อนนอน จะทำให้เราอดอาหารว่างจากธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพไปอย่างน่าเสียดาย

 

  • บทสรุป เราควรกินผลไม้ตอนไหนดีที่สุด

 

ผลไม้นั้นดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารอาหาร โดยทั่วไปแล้วสามารถบริโภคได้ทุกช่วงเวลาของวัน หากต้องการลดน้ำหนัก เส้นใยอาหารในผลไม้จะช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ส่งผลให้เราบริโภคแคลอรีลดลง อาจทำให้น้ำหนักลดลงได้ การกินผลไม้ก่อนมื้ออาหารทันทีจะส่งผลได้มากขึ้นอีกด้วย หากเป็นโรคเบาหวานประเภทที่สอง การกินผลไม้พร้อมกับอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมัน หรือเส้นใยอาหาร จะส่งผลให้น้ำตาลจากผลไม้เข้าสู้ลำไส้เล็กได้ช้าลง ผลคือน้ำตาลในเลือดขึ้นช้าลงเมื่อเทียบกับการแยกกินเฉพาะผลไม้

 

ดังนั้น “ผลไม้ควรกินก่อนหรือหลังอาหาร” ขึ้นอยู่กับประเภทของผลไม้และเป้าหมายที่ต้องการจากการกิน

 

 

 

 

ที่มา : gridmag,bluzone, healtline.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น