“ท่านเจ้าคุณปรีชา” เจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร วอนช่วยเหลือครอบครัวยากไร้ “4 พี่น้อง” สู้ชีวิต อาศัยบ้านถูกตัดไฟนานนับปี

“ท่านเจ้าคุณปรีชา” เจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร วอนช่วยเหลือครอบครัวยากไร้ “4 พี่น้อง” สู้ชีวิต อาศัยบ้านถูกตัดไฟนานนับปี

Top news รายงาน ครูลงพื้นที่ตามโครงการเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียนพบเห็นภาพสุดสะเทือนใจทั้งครอบครัวมี 6 ชีวิต พ่อแม่ตกงานแถมป่วยเป็นโรคไทรอยด์กล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่มีเงินจ่ายค่าไฟฟ้าถูกยกหม้อไฟไม่มีไฟฟ้าใช้นานนับปี เด็กๆ อาศัยกินข้าวโครงการอาหารกลางวันแล้วห่อข้าวกลับบ้าน สุดแร้นแค้นถึงขั้นเด็ดยอดกระถินข้างทางประทังหิว เก็บผักบุ้งกลางนาต้มกับผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินเป็นอาหาร สืบค้นทำไมสังคมทอดทิ้งครอบครัวนี้พบถูกกล่าวร้ายว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตกเป็นข่าวเด็กๆยากลำบาก พระ-ครู เข้าโอบอุ้ม ฝ่ายปกครองนำพ่อแม่เด็กตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ผลลัพธ์ที่ออกมาบริสุทธิ์โปร่งใสไม่มีสารเสพติดในร่างกาย จึงวอนสังคมเมตตาช่วยครอบครัวนี้ด้วย

 

 

วันที่ 27 มิถุนายน 2567 เรื่องสุดเศร้านี้ถูกเปิดเผยขึ้น โดย พระเมธีธรรมประนาท “ท่านเจ้าคุณปรีชา” เจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง และ นางสาวพรรณงาม รอดฟ้า ซึ่งเป็นคุณครูประจำชั้นของเด็กๆ อยู่ที่โรงเรียนบ้านหนองขาว ตั้งอยู่ที่ 99 หมู่ 9 ต.บึงบัว อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร เป็นโรงเรียนขยายโอกาสที่อยู่ในความดูแลของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 โรงเรียนแห่งนี้มีเด็กนักเรียนประมาณ 270 คน ซึ่งเด็กๆ ทั้ง 4 คนนี้ ก็เป็นเด็กนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ บ้านของเด็กๆ ทั้ง 4 คน อยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 4 กิโลเมตร เด็กๆ ก็ได้ใช้จักรยานที่พระสงฆ์ในพื้นที่นำมามอบให้ขี่ไปโรงเรียน

ความทุกข์ยากของเด็กๆ ในครอบครัวนี้ เกิดจาก นายสารัช ขำเมือง อายุ 32 ปี “ผู้เป็นพ่อ” และ น.ส.ศิริพร พลับพลาทอง อายุ 31 ปี “ผู้เป็นแม่” มีลูกทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย เด็กหญิง อมรรัตน์ ขำเมือง “น้องจ๋า” อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม. 2 , เด็กชายภาณุพงศ์ ขำเมือง “น้องเน็ท” อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป. 5 , เด็กหญิงวัณวิสา ขำเมือง “น้องจูน” อายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป. 5 , ด็กชายพัชรพล ขำเมือง “น้องไนซ์” อายุ 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย พ่อและแม่ของเด็กๆ เล่าว่า ตนเองเคยเป็นช่างเชื่อมทำงานอยู่กับผู้รับเหมา ต่อมาพบกับสถานการณ์โควิด เถ้าแก่เลิกจ้างเพราะไม่มีงานให้ทำ ประกอบกับมีโรคประจำตัวรุมเร้า คือผู้เป็นพ่อของเด็กๆ ป่วยเป็นโรคไทรอยด์ และกล้ามเนื้ออ่อนแรงจึงกลับมาอยู่บ้านทำงานรับจ้างทั่วไป แต่ด้วยในพื้นที่เป็นชนบทจึงมีงานว่าจ้างเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ เงินหรือรายได้ที่ได้มาก็ได้เพียงแค่พอซื้อข้าวสารกิน พ่อและแม่ของเด็ก เข้าใจผิดว่าบ้านของตนเองจะได้ใช้ไฟฟ้าฟรีตามมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และประสบเหตุโควิดจึงไม่ได้จ่ายค่าไฟกลายเป็นดินพอกหางหมู

จนในที่สุดก็ถูกการไฟฟ้าตัดไฟและถอดหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าไปนานนับปีแล้ว หากถ้าจะขอใช้ไฟฟ้าก็ต้องนำเงินก้อนไปจ่ายซึ่งพ่อและแม่เด็กไม่มีปัญญา จึงปล่อยให้ลูกๆทั้ง 4 คน ใช้ชีวิตอยู่ในความมืด ยามค่ำคืนก็ต้องจุดเทียนและใช้ตะเกียงส่องสว่างด้วยความยากจนแม้แต่เตาถ่านหุงข้าวก็ยังไม่มี เด็กๆ เหล่านี้จะได้กินข้าวอิ่มท้องก็ต่อเมื่อไปกินที่โรงเรียน และห่ออาหารที่เหลือจากโรงอาหารของโรงเรียนกลับมาเป็นอาหารเย็นที่บ้าน

 

เด็กหญิง อมรรัตน์ ขำเมือง “น้องจ๋า” อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม. 2 โรงเรียนบ้านหนองขาว เล่าถึงชีวิตที่ยากลำบากว่า ข้าวสารก็แทบจะไม่มีกรอกหม้อไปโรงเรียนก็ไม่มีเงินค่าขนมไปกินที่โรงเรียน บางวันพ่อกับแม่ก็พากันไปเก็บยอดกระถินที่ขึ้นอยู่ริมถนน ไปเก็บผักบุ้งกลางทุ่งนามาต้มกิน โดยก็จะไปขอเครื่องปรุงบะหมี่สำเร็จรูปมาใส่ในน้ำต้มผักบุ้งเพื่อให้มีรสชาติ ให้ได้กินอิ่มท้องเพื่อประทังความหิวกัน และก็บ่อยครั้งที่ทั้งครอบครัวต้องกินข้าวกับ เกลือพริก ละลายกับพริกป่น เธอจึงขอความเมตตาขอทุนการศึกษา ขอทุนให้พ่อแม่ ทำมาค้าขายหรือประกอบอาชีพ รวมถึงขอไฟฟ้าให้กับครอบครัวของเธอด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าปัญหาที่ครอบครัวปัญหาดังกล่าวนี้กำลังประสบอยู่ เนื่องจากมีฐานข้อมูลจากผู้นำชุมชนกล่าวให้ร้ายว่า พ่อและแม่เด็กๆ มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้หน่วยงานราชการตัดหางปล่อยวัด ซึ่งอาจเป็นเรื่องในอดีตของผู้เป็นพ่อสมัยที่เป็นผู้ใช้แรงงานทำให้ถูกแบล็กลิสต์ จนกระทั่งเมื่อพระและครูเข้าช่วยเหลือและเป็นข่าว ล่าสุด นายกฤษชัย สุวรรณจินดา ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจึงได้ลงพื้นที่และนำตัวพ่อและแม่ของเด็กๆ ทั้ง 4 คน มาทำกันตาวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งผลลัพธ์จากการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดอยู่ในร่างกายแต่อย่างใดทำให้พ้นมลทิน ซึ่งหลังจากนี้ทางราชการก็จะช่วยเหลือจัดหาวัสดุอุปกรณ์และปัจจัยในการทำการเกษตร ปลูกผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ให้มีรายได้ แต่พ่อและแม่ของเด็กๆมีความประสงค์อยากจะมีมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างเพื่อค้าขายเล็กๆน้อยๆในหมู่บ้าน ซึ่งก็จะได้หาทางช่วยเหลือต่อไป

 

สำหรับท่านใดที่มีเมตตาต้องการช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวนี้ เชิญร่วมทำบุญได้ที่ชื่อบัญชี นางสาวศิริพร พลับพลาทอง ( แม่ของเด็กๆ ) และนางสาวพรรณงาม รอดฟ้า (คุณครูประจำชั้นของเด็กๆ) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ( ธกส.) เลขที่บัญชี 020-233-199-635

สอบถามรายละเอียด โทร 085-7267119 คุณครูพรรณงาม ร.ร.บ้านหนองขาว ต.บึงบัว อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น