CNN, BBC และรอยเตอร์สรายงานศึกปะทะคารมคู่ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐรอบแรกซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 90 นาทีที่สตูดิโอของ CNN เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (27 มิย.) โดยไบเดนและทรัมป์ได้เริ่มการดีเบทโดยไม่มีการจับมือ จากนั้นทั้งคู่ก็เปิดฉากโจมตีคู่ต่อสู้ในประเด็นเศรษฐกิจ, กฎหมายทำแท้ง, สงครามยูเครน-รัสเซียและการสู้รบในกาซา ซึ่งในช่วงครึ่งแรก ไบเดนวัย 81 ปีก็มีอาการเสียงแหบแห้ง พูดไปหยุดไปเป็นระยะๆ และมีการโจมตีทรัมป์ในประเด็นใช้เงินปิดปากสตอร์มี่ แดเนี่ยลส์ นางเอกหนังโป๊เพื่อให้เก็บความลับในช่วงการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ขณะที่ทรัมป์ก็ตอบโต้ด้วยการหยิบยกคดีฮันเตอร์ ไบเดนที่ซื้ออาวุธปืนขณะติดยามาโจมตีไบเดน
ทั้งคู่ยังได้ถกเถียงและโจมตีกันและกันในเรื่องส่วนตัว แม้กระทั่งเรื่องการตีกอล์ฟก็ยังหยิบยกมาเถียงกัน
ทันทีที่การดีเบทสิ้นสุด โพล CNN เผยผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันที่ชมการดีเบทพบว่าทรัมป์ชนะไบเดนในศึกดีเบทครั้งนี้ไป 67% ต่อ 33% ขณะที่ 57% ของผู้ชมบอกว่าไม่มีความมั่นใจในตัวไบเดน อย่างไรก็ตาม 44% บอกว่าไม่เชื่อมั่นในตัวทรัมป์
อย่างไรก็ตาม CNN เผยว่าแม้ทรัมป์จะทำได้ดีกว่าในศึกโต้คารมครั้งนี้ แต่ข้อมูลที่ทรัมป์นำเสนอมีข้อผิดพลาดและไม่เป็นความจริงเยอะมาก รวมทั้งข้อกล่าวหากลุ่มผู้ลี้ภัยที่ทรัมป์อ้างว่าทำให้เกิดอาชญากรรมทั่วสหรัฐ, และเงินสนับสนุนนาโตที่ทรัมป์อ้างว่าสหรัฐเป็นผู้สนับสนุนเกือบ 100% ทั้งๆที่ความเป็นจริงคือ 71% และยังมีกรณีที่ทรัมป์อ้างว่าตัวเองชนะเลือกตั้งปี 2563
ศึกดีเบทครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกได้สร้างความวิตกให้กับบรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครตเป็นอย่างมาก ขนาดนางกมลา แฮริส รองประธานาธิบดีสหรัฐยังยอมรับว่าไบเดนเครื่องติดช้า แต่ยังคงกล่าวปกป้องพร้อมเรียกร้องชาวอเมริกันให้ตัดสินจากผลงานของทั้งคู่
อย่างไรก็ตามหนึ่งในผู้บริจาคให้พรรคเดโมแครตออกมาชี้ว่าไบเดนล้มเหลวในดีเบทครั้งนี้และคาดว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตจะออกมาเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัวก่อนการประชุมใหญ่พรรคจะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม ขณะที่นักวิเคราะห์ของสื่ออเมริกันแทบทุกสื่อต่างแสดงความวิตกว่าไบเดนอาจเพลี่ยงพล้ำในศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม ไบเดนยังออกมายืนยันหลังการดีเบทว่าตัวเองทำได้ดี แต่เสียงแหบเพราะเจ็บคอและเป็นหวัด และเมื่อถูกถามว่าจะถอนตัวออกจากการแข่งขันตามเสียงเรียกร้องหรือไม่ ไบเดนตอบว่าไม่ พร้อมกล่าวหาทรัมป์ว่าให้ข้อมูลเท็จถึง 26 ครั้งตามรายงานของนิวยอร์ก ไทม์ส ซึ่งการเถียงกับคนโกหกถือเป็นเรื่องยาก