“นิกร” ซัด “ไอติม พริษฐ์” ปมยื่นญัตติด่วน ปรับคำถามประชามติของรัฐบาล ชี้ก้าวก่ายอำนาจฝ่ายบริหาร

“นิกร” ซัด “ไอติม พริษฐ์” ปมยื่นญัตติด่วน ปรับคำถามประชามติของรัฐบาล ชี้ก้าวก่ายอำนาจฝ่ายบริหาร

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.67 ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง กรรมการและโฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กล่าวถึงกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ยื่นญัตติด่วนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ด้วยคำถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ” ว่า

นายนิกร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการที่ “ผิดช่องทาง ผิดที่ และผิดเวลา” เป็นการแทรกแซงฝ่ายบริหารอย่างไม่ทราบเจตนา พรรคก้าวไกลเคยเสนอญัตติเรื่องขอให้สภาฯ ตั้งคำถามว่า ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า ประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งฉบับแทนที่รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2560 ฉบับปัจจุบัน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตังโดยตรงของประชาชน ซึ่งในครั้งนั้นที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบด้วย 262 เสียง เห็นชอบด้วยเพียง 162 เสียง และงดออกเสียง 6 เสียง ญัตติดังกล่าวจึงตกไป ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงน่าจะจบไปแล้ว เหตุใดจึงมีการยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้เปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีของฝ่ายบริหารในครั้งนี้อีก และมีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายนิกร กล่าวว่า การทำประชามติที่จะเกิดขึ้นเป็นการดำเนินการตามคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 ที่รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อให้คนไทยได้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและไม่แก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์

นายนิกร กล่าวว่า ตนในฐานะประธานอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เห็นว่าการดำเนินการก่อนได้ข้อสรุปในการตั้งคำถามประชามติ ทางคณะอนุกรรมการได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ได้แก่ ประชาชนกลุ่มอาชีพและภาคส่วนต่าง ๆ จากประชาชน 4 ภาค นิสิต นักศึกษา รวมทั้งได้เดินทางไปรับฟังความคิดเห็นของพรรคก้าวไกล เมื่อวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน 2566 และคณะอนุกรรมการฯ ได้นำความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนนั้นมาประมวลผล

 

 

นายนิกร กล่าวว่า ผลจากการรับฟังความคิดเห็นข้างต้นพบว่า เสียงส่วนใหญ่เห็นสมควรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ที่ยังคงไว้ตามเดิม คณะอนุกรรมการจึงนำเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาคำถามประชามติ โดยคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วมีความเห็นร่วมกันว่า การตั้งคำถามประชามติโดยไม่มีเงื่อนไขการไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ จะก่อให้เกิดความขัดแย้งที่มากกว่า เนื่องจากอาจมีพรรคการเมืองบางพรรคกล่าวอ้างว่า ประชาชนเห็นชอบให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งอาจนำไปสู่การแก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ อันจะทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง และอาจมีความเคลื่อนไหวที่ทำให้การทำประชามติไม่ผ่าน หรือที่ร้ายแรงกว่าคืออาจเกิดเป็นวิกฤตรัฐธรรมนูญดังเช่นเหตุการณ์เมื่อปี 2535 อันจะนำมาซึ่งความรุนแรงนำไปสู่ความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน คณะกรรมการฯ จึงเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาคำถามประชามติที่มีความเหมาะสมแล้ว

นายนิกร กล่าวว่า ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 คณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติเห็นชอบคำถามประชามติในครั้งที่ 1 ตามที่คณะกรรมการฯ เสนอนอกจากนี้ ข้อเสนอของคณะกรรมการฯ และมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ยังสอดคล้องกับผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนของนิด้าโพลที่พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ซึ่งนั่นเป็นการยืนยันความถูกต้องของคำถามอีกทางหนึ่งด้วย

นายนิกร กล่าวว่า เรื่องนี้นอกจากจะเป็นการยื่นผิดช่องทาง ผิดที่แล้ว ยังเป็นการก้าวก่ายหน้าที่และอำนาจ ของฝ่ายบริหารอันชอบด้วยกฏหมายที่เสนอให้มีการออกเสียงตามมาตรา 9 (2) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 และเป็นการยื่นญัติติที่ผิดเวลา เนื่องจากการจัดให้มีการออกเสียงประชามติจะดำเนินการเมื่อร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมาย และคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้มีการออกเสียงประชามติแล้ว แต่ปัจจุบันร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร จึงเชื่อว่าประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติไม่เห็นชอบกับญัตติดังกล่าวเหมือนกับที่เคยมีมติในญัติทำนองเดียวกันนี้มาก่อนแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รพ.เด็ก อัปเดตอาการ เด็ก 14 เหยื่อไฟไหม้บัส บาดแผล สภาพจิตใจดีขึ้น
ชาวบ้านโวย ไร้เหลียวแลเยียวยา น้ำท่วมนา 1 พันไร่ 35 ปี ไร้ที่ทำกิน ด้านประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายและยุติธรรม นำคณะ สว.เมืองช้าง ลงพื้นที่รับฟังปัญหา
สหรัฐฯ ส่ง “ผบ.CentCom” ถึงรัฐยิว! ปิดห้องลับ-สุมหัวถล่ม “อิหร่าน”
“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ห่วงสงคราม "อิสราเอล" ขยายตัว หวั่นน้ำมันแพง แนะสั่งสต๊อกน้ำมันสำรอง
สลด ! หนุ่มใหญ่ ขี่จยย. ถูก 18 ล้อ เบียดกระเด็นก่อนถูกเก๋งทับซ้ำดับคาที่
ผบ.สอ.รฝ.ท่านใหม่ มอบ 3 นโยบายหลักกำลังพล ต้องมีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ มีระเบียบวินัยและมีความสามัคคี
คึกคัก เลือกตั้งนายกอบจ.อุทัยธานี "เผด็จ" ไร้คู่แข่ง ประชาชนทยอยใช้สิทธิ์ตั้งแต่เช้า
“ธนกร” ฝาก “นายกฯ” แก้ปัญหาทุนจีน-เมียนมา หลังรุกคืบครองหลายจังหวัด ทำธุรกิจเกลื่อน
“พิชัย” ย้ำอยู่ในเหตุการณ์ “นายกฯ” ทำผลงานโดดเด่น ได้รับคำชื่นชมบนเวทีโลก ขอเลิกอคติ หันมาให้กำลังใจทีมไทยด้วยกัน
“เศรษฐา” ป้อง “นายกฯ” ชี้ปมอ่านโพย เพื่อกันความผิดพลาด ให้เกิดน้อยที่สุด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น