ดับฝันขวาจัด การเมืองฝรั่งเศสพลิก ฝ่ายซ้ายเข้าวินพรรคอันดับหนึ่งเลือกตั้งรอบสอง แต่มีแวววุ่นไม่มีใครครองเสียงข้างมาก
การเมืองฝรั่งเศสส่อแววพลิกผันอีกรอบ หลังการเลือกตั้งรอบชี้ขาดเมื่อวานนี้ ผลนับคะแนนเบื้องต้นชี้ว่า พรรคเนชันแนล แรลลี (อาร์เอ็น) พรรคขวาจัดของ มารีน เลอ แปน ที่เป็นที่ 1 ในศึกเลือกตั้งรอบแรกในวันที่ 30 มิถุนายนไม่สามารถคว้าที่นั่งได้ตามคาด
โพลล์ล่าสุดคาดการณ์ว่า แนวร่วมนิวป็อบปูลาร์ฟอนต์ (เอ็นเอฟพี) ฝ่ายซ้าย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว มาเป็นอันดับ 1 ด้วย198 ที่นั่ง ส่วนกลุ่มพันธมิตรสายกลางของมาครงได้ 169 ที่นั่ง แต่พรรคอาร์เอ็นและพันธมิตรหล่นไปอยู่อันดับ 3 ที่ 145 ที่นั่ง ทำให้ขณะนี้ไม่มีกลุ่มใดสามารถคว้าเสียงข้างมาก (289 ที่นั่ง) ในรัฐสภาที่มี 577 ที่นั่ง
หลังทราบผล ฌอง-ลุค เมลองชง ผู้นำกลุ่มเอ็นเอฟพี ฝ่ายซ้าย เรียกร้องให้กลุ่มของเขาได้รับอนุญาตให้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีกาเบรียล แอตทาล ซึ่งเป็นแนวร่วมของพรรคมาครงลาออก ซึ่งแอตทาล ได้กล่าวว่า เขาจะยื่นลาออกในวันนี้ แต่ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ตามความจำเป็นของภารกิจ โดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า
ขณะที่จอร์แดน บาร์เดลลา หัวหน้าพรรค อาร์เอ็น ฝ่ายขวา ประณามความพ่ายแพ้ของพวกเขาว่า เกิดจากการจับมือกันของฝ่ายซ้ายและพวกสายกลาง สกัดกั้นไม่ให้พวกเขาก้าวเข้าสู่อำนาจ พร้อมให้คำมั่นว่าจะต่อสู้ต่อไป ส่วนมารีน เลอแปน แกนนำคนสำคัญของอาร์เอ็น ประกาศว่า กระแสน้ำนั้นสูงขึ้นไม่มากพอในคราวนี้ แต่เชื่อว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ชัยชนะของพวกเขาแค่ถูกเลื่อนออกไปเท่านั้น
นอกจากความพ่ายแพ้ของฝ่ายขวาจัดแล้ว ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ที่ต่อไปจะมีรัฐสภาที่ไม่เป็นเอกภาพ ซึ่งจะทำให้การผลักดันนโยบายทั้งในประเทศ และบทบาทของฝรั่งเศสในสหภาพยุโรป และการต่างประเทศอ่อนแอลง ซึ่งทั้ง 3 กลุ่ม มีแนวทางที่ต่างกันอย่างมาก และไม่มีประเพณีทำงานร่วมกัน
คำถามสำหรับฝรั่งเศสเวลานี้คือ จะมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพหรือไม่ ภายใต้การสนับสนุนของแนวร่วมฝ่ายซ้ายที่เคยเต็มไปด้วยความแตกแยก ขณะเดียวกัน ก็ต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายอาร์เอ็นของ เลอ แปน ที่ครองเสียงได้อย่างโดดเด่นในรัฐสภา ในขณะที่เธอเองเตรียมการลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีปี 2570