เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 12.14น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบปรับอัตราสมทบเงินเดือนครู จาก 15,000 บาท เป็น 18,000 บาท โดยทยอยปรับใน 2 ปี และอุดหนุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนขนาดเล็ก ที่มีขนาดนักเรียนไม่เกิน 200 คน
ข่าวที่น่าสนใจ
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติอนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้จ่ายงบกลาง ปี 67 วงเงิน 1,939 ล้านบาท เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายจากมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน สำหรับค่าไฟฟ้าเดือนม.ค. ถึง เม.ย. 67
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีการพูดคุยในรายละเอียดโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง โดยทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งว่า โครงการชดเชยเยียวยา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ กับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เป็นคนละโครงการกัน ซึ่งในโครงการชดเชยเยียวยาเป็นโครงการตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว และเป็นการช่วยเหลือในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ที่ราคาข้าวอยู่ที่ 7,000-8,000 บาทต่อตัน แต่ปัจจุบันราคาข้าวดีขึ้นแล้ว จึงทำให้เกิดโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เพื่อลดต้นทุนของเกษตรกร และเพิ่มจำนวนผลผลิตต่อไร่ของข้าว และเป็นโครงการที่ยั่งยืนมากกว่า และใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า
ต่อมา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกเหนือจากราคาข้าว การใช้เกษตรแม่นยำ ใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องตามการวิเคราะห์จากหมอดิน ทำให้ทราบถึงความต้องการของปุ๋ยที่ถูกต้อง รวมถึงได้กำชับให้เรื่องค้าปุ๋ย จะต้องไม่ตกอยู่ในมือของผู้ค้าปุ๋ยแค่ 2-3 ราย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ต้องหาผู้ค้าปุ๋ยให้ได้ 40-50 ราย และต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ไม่ให้เกิดการทุจริต
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า หากเกิดสถานการณ์วิกฤติ เรื่องการเยียวยาให้กับเกษตรกร ก็จะมีการปรับตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อสร้างที่จอดรถ วงเงิน 118 ล้าน แต่เรื่องสำคัญ คือ การขาดแคลนบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นพยาบาล เทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด ถือเป็นบุคลากรที่มีคุณค่า จึงได้สั่งการไปที่รมว.สาธารณสุขให้ช่วยดูว่า จะเพิ่มบุคลากรเหล่านี้ได้อย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
