สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าไบเดนซึ่งหาเสียงอยู่ที่รัฐเดลาแวร์ได้ตัดสินใจเดินทางกลับทำเนียบขาวทันทีหลังเกิดเหตุพยายามลอบสังหารทรัมป์ จากนั้นไบเดนก็ได้โทรไปหาและพูดคุยกัน แต่ไม่มีรายงานว่าพูดคุยอะไรกันบ้าง ก่อนเปิดแถลงข่าวประณามเหตุลอบยิง
ขณะที่บรรดานักการเมืองสหรัฐทั้งสองพรรคได้ทยอยประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจากอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าออกแถลงการณ์ประณามชี้จะต้องไม่มีที่ยืนให้กับเหตุรุนแรงในสังคมประชาธิปไตยอย่างสหรัฐ และว่าเขารู้สึกโล่งอกที่ทรัมป์ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้านไมค์ เพนส์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐบาลทรัมป์กล่าวว่าตัวเขาและภริยาได้ร่วมสวดมนต์ขอให้ทรัมป์ปลอดภัย และเรียกร้องให้ช่าวอเมริกันร่วมสวดมนต์พร้อมกัน ส่วนนายฮาคีม เจฟฟรี่ส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐออกแถลงการณ์ชื่นชมตำรวจคุ้มกันที่ตอบโต้และควบคุมเหตุได้อย่างทันท่วงที พร้อมชี้ว่าสหรัฐเป็นประเทศประชาธิปไตยและเหตุรุนแรงทางการเมืองไม่สามารถยอมรับได้
ขณะที่ผู้นำโลกก็ออกมาร่วมประณามเช่นกัน โดยเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษเป็นผู้นำคนแรกที่ออกมาแถลงโดยกล่าวว่าเขารู้สึกช็อคต่อเหตุลอบยิงทรัมป์ และว่าเหตุรุนแรงทางการเมืองจะต้องไม่มีที่ยืนในสังคม พร้อมแสดงความห่วงใยผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
ด้านนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่นออกมาเรียกร้องให้ผู้คนทั่วโลกต่อต้านเหตุรุนแรงที่เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย ขณะที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาบอกว่ารู้สึกคลื่นไส้ต่อเหตุรุนแรงต่อต้านทรัมป์
อย่างไรก็ตามสมาชิกพรรคริพับลิกันหลายคน รวมทั้งวุฒิสมาชิกเจดี แวนซ์และสส.ไมค์ คอลลินส์ ออกมากล่าวหาไบเดนว่าเป็นต้นเหตุทำให้ทรัมป์ถูกลอบยิง โดยชี้ว่าเป็นเพราะไบเดนจุดกระแสความหวาดกลัวให้กับชาวอเมริกันเรื่องทรัมป์อาจกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐได้สั่งให้เริ่มกระบวนการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้มีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยรอบอาคารทรัมป์ทาวเวอร์ ที่นครนิวยอร์ก