สุดช้ำ “หนุ่มใหญ่วัย 45 ปี” ไม่ทันเหลี่ยม “มิจฉาชีพ” ออนไลน์ โดนหลอกให้รัก ก่อนลวงลงทุน สุดท้ายสูญเงินเกือบล้าน

ครั้งแรก ตนได้ลองลงทุนดูโดยโอนเงินไป 100 บาท และเลือกโปรโมทโฆษณาที่เราจะลงทุนด้วย เพียงไม่กี่นาที ก็ได้เงินกลับมาประมาณ 20 บาท เงินเข้าบัญชีจริง แต่เข้าเฉพาะเงินที่เป็นค่าตอบแทน เมื่อเห็นดังนั้นตนเองจึงเกิดความโลภ และลองเพิ่มเงินทุนขึ้นเรื่อยๆเป็นระดับ ตั้งแต่เงินจำนวนหลักร้อยจนถึงหลักแสน ซึ่งก็ได้เงินกลับมาทุกครั้ง พอมานั่งคำนวณเงินที่ลงทุนไป รวมแล้วประมาณ 2-3 แสนกว่าบาท จึงเกิดความอยากที่จะถอนเงินทุนคืนเพื่อเอามาลงทุนใหม่ แต่ทางแอดมินอ้างว่า ถอนเงินออกมาไม่ได้ ถ้าจะถอนต้องทำตามระบบคือ ต้องเติมเงินเข้ามาประมาณ 120,000 บาท 3 งวด รวมเป็นเงิน 360,000 บาท คิดจากเงินลงทุนเป็นเปอร์เซ็นที่เคยลงทุนไป ถึงจะทำการถอนเงินออกมาได้ ถ้าทำตามแล้วเงินที่โอนเข้ามาเพื่อทำการถอน ก็จะได้คืนเช่นกัน

ตนจึงโอนเงินไปตามระบบ แต่แล้วเงินก็ไม่ได้เข้าบัญชี จึงถามกลับไปที่ยิวและบอกว่าอยากถอนเงินออกมา แต่ก็ได้คำตอบอ้างไปต่างๆนาๆว่าเดี๋ยวก็ได้ ทำตามที่เขาบอกไปเถอะ ด้วยความที่อยากได้เงินคืน จึงติดต่อแอดมินอีกครั้ง และแจ้งความประสงค์ว่า อยากถอนเงินออกทั้งหมด ซึ่งแอดมินก็แจ้งกลับมาว่า การโอนเงินเพื่อถอนเงินคราวที่แล้ว เนื่องจากระบบมีปัญหาขัดข้อง จึงถอนเงินคืนให้ไม่ได้ จะต้องเติมเงินเข้าไปใหม่แล้วทำแบบเดิมอีกครั้ง ด้วยความที่ตนโอนเงินไปมากแล้ว และอยากได้คืนทั้งหมด จึงโอนเงินเข้าไปใหม่เพื่อจะถอนเงินคืน แต่แล้วเมื่อโอนเงินครบเงินกลับไม่เข้าบัญชี จึงรู้ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องราวที่กุขึ้นเพื่อหลอกลวงตน โดยแก๊งมิจฉาชีพที่ใช้รูปอวตารคนอื่นมาตีสนิทหลอกให้รักและชักชวนให้ร่วมลงทุน เมื่อรู้ว่าโดนหลอกจึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยหวังว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจับแก๊งมิจฉาชีพพวกนี้ได้และได้รับเงินคืน

ทั้งนี้ คุณหนุ่มยังฝากข้อคิดไปถึงสังคมว่า ไม่ควรหลงเชื่อบุคคลหน้าตาดี แต่ไม่เคยเจอหรือรู้จักกันมาก่อน อย่าให้ความโลภครอบงำ จนมองอะไรไม่เห็น ควรใช้สติอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ ร่วมลงทุนธุรกิจหรือทำอะไรก็ตาม

ทีมข่าว Top News ได้สอบถามความคืบหน้าในการติดตามตัวแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้กับ พ.ต.ท.สุธี ตันสกุล รองผกก.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ทราบว่า ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการรอเอกสารทางด้านบัญชี จากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งอายัดบัญชีไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่า จะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 30 วันในการส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ก็จะออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไปซึ่งมีทั้งหมด 5 บัญชี คือ 1. นางสาวพัชรินทร์ สาครอาจ 2. นายสุทัศน์ แสนโรราด 3. นางสาวโชติกา เทียนทองดี 4. นายกิตติชัย วุฒิพงษ์ชัย และ 5. นายภัทรกร เที่ยงคุณ มาทำการสอบสวน หากออกหมายเรียกครบทั้ง 2 ครั้ง และยังไม่มีการมารายงานตัว ก็จะออกหมายจับแทนตามขั้นตอนกฎหมาย