สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลบังกลาเทศนำโดยนายกรัฐมนตรีชีค ฮาซิน่าได้ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ มีผลบังคับตั้งแต่เที่ยงคืนของเช้ามืดเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 20 กค.) จนถึง 10.00 นาฬิกาวันนี้ (อาทิตย์ที่ 21 กค.) เป็นอย่างน้อย พร้อมส่งทหารออกควบคุมสถานการณ์ห้ามประชาชนออกนอกบ้าน นอกจากนี้ก็สั่งปิดห้างร้านและสำนักงานทั้งหมด เพื่อควบคุมไม่ให้เหตุประท้วงของกลุ่มนักศึกษาลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้หลังจากเหตุประท้วงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 133 คน
ทั้งนี้มีรายงานว่าทหารได้ยิงปืนเข้าใส่ฝูงชนจำนวนหลายพันคนที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวที่เมืองรัมปุระ ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน ขณะที่กรุงธากาแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง เนื่องจากประชาชนเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน มีเพียงรถหุ้มเกราะที่วิ่งลาดตระเวนรักษาความสงบ
ด้านนายกรัฐมนตรีฮาซิน่าได้ตัดสินใจยกเลืกหมายการเดินทางไปเยือนสเปนและบราซิลในวันนี้หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้
เหตุรุนแรงเริ่มขึ้นหลังจากกลุ่มนักศึกษาออกมาชุมนุมประท้วงทั่วประเทศเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกระบบโควต้าตำแหน่งงานข้าราชการพลเรือนจำที่สงวนไว้ให้กลุ่มอภิสิทธิ์ชน รวมทั้งลูกหลานทหารผ่านศึกที่เคยร่วมทำสงครามกับปากีสถานจนทำให้บังกลาเทศแยกตัวเป็นเอกราชได้สำเร็จในปี 2514 ทั้งนี้กลุ่มผู้ประท้วงกล่าวหาว่ารัฐบาลของฮาซิน่าใช้ระบบโควต้านี้เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มสนับสนุน ทำให้นักศึกษาถูกตัดสิทธิ์และลดโอกาสสอบเป็นข้าราชการ
เหตุประท้วงลุกลามกลายเป็นเหตุรุนแรงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (18 กค.) เมื่อกลุ่มนักศึกษาได้จุดไฟเผาป้อมตำรวจ และหน่วยงานราชการหลายแห่ง รวมทั้งสำนักงานใหญ่สถานีโทรทัศน์บังกลาเทศซึ่งเป็นโทรทัศน์ของรัฐ และยังบุกเรือนจำปล่อยนักโทษจำนวนหลายร้อยคน จนเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำให้ตำรวจบาดเจ็บไปกว่า 300 นาย รัฐบาลต้องสั่งตัดระบบอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศเพื่อตัดการสื่อสารของกลุ่มผู้ประท้วง ส่งผลให้ระบบการสื่อสารกลายเป็นอัมพาตทั่วประเทศ ขณะที่โทรทัศน์บังกลาเทศก็ยังจอดำ ล่าสุดกลุ่มผู้ประท้วงเริ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ฮาซิน่าลาออกจากตำแหน่ง โดยเหตุประท้วงครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับนายกฯหญิงฮาซิน่าหลังบริหารประเทศมา 15 ปี