“ธรรมนัส” สั่งรองอธิบดีกรมชลประทานสอบ ขรก.เอาผิดบกพร่องต่อหน้าที่ เตรียมย้ายด่วน

“ธรรมนัส” สั่งรองอธิบดีกรมชลประทานสอบ ขรก.เอาผิดบกพร่องต่อหน้าที่ เตรียมย้ายด่วน

เวลา14.15 น.วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 มัสยิดเราฎลตุ้ลญีนาน หมู่ที่ 3 ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า)ในการตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์ อุทภภัยในพื้นที่จ.ตราด พร้อมนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน และคณะ

 

 

โดย นายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดตราดว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า จ.ตรสดมีพื้นที่ประสบภัย (ระหว่าง 19-21 ก.ค. 2567 ) รวม 2 อำเภอ 6 ตำบล 6 ชุมชน 47 หมู่บ้าน ประกอบด้วย พื้นที่อำเภอเขาสมิง ประกอบด้วย ตำบลทุ่งนทรี หมู่ที่ 1,2,3,5, 7,8,9ตำบลเขาสมิง หมู่ที่ 1-9 ตำบลประณีต หมู่ที่ 6,8 และตำบลแสนตุ้ง หมู่ที่ 1-10 ในอำเภอเมืองตราด
กิจสวัสดิ์ ชุมชนโภคไพร ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนรักคลองบางพระ ชุมชนทำเรือจ้าง ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองตราด มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ชุมชนบ้านล่าง ชุมชนตำบลหนองเสม็ด หมู่ที่ 1-7 และตำบลวังกระแจะ หมู่ที่ 1-12 โดยมีประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 2 อำเภอ 6 ตำบล 6 ชุมชน 47 หมู่บ้าน938 ครัวเรือน 2,840 คน

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมว่ารัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือผ่านกระทรวงมหาดไทยที่มีงบประมาณในการเยียวยาในเรื่องของความเสียบหายต่างๆ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้ประกาศพื้นที่เขตภัยพิบัติแล้ว จึงสามารถช่วยเหชือประชาลนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ และขอให้รองผู้ว่าราชการจ.ตราดดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแล

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

และหลังจากนั้นได้มอบถังยั้งชีพให้กับชาวมัสยิดเราฎลตุ้ลญีนาน แล้วเดินทางมาที่บริเวณหน้าโครงการชลประทานตราด ในเวลา 14.45 น.เพื่อรับฟังบรรยายสรุปของนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทานถึงสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดตรสดที่มี 3 จุดคือ จุดแรกที่ต.แสนตุ้ง ซึ่งท่วมฟาร์มสุกรขนาดใหญ่ จุดที่ 2 บ้านหนองบัว ต.วังกระแจะ น้ำท่วมถนนสุขุวิท ทำให้รถยนต์ไปมาไม่ได้ แต่ในช่วงเย็นระดับน้ำลดลง และจุดที่ 3 คือ บริเวณอ่างเก็บน้ำเขาระกำตอนล่างที่เป็นพื้นที่เก็บน้ำ และมีฝนตกลงมามากจนความจุอ่างที่มี 2.5 ล้านลบม.เต็ม ทำให้ต้องระบายน้ำออกเต็มที เพื่อรักษาอ่างเก็บน้ำไว้ และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ประชาชนในม.3 ตำบลดังกล่าว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ซึ่งหลังจากนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ขึ้นกล่าวและขอให้ชาวบ้านได้สอบถาม ซึ่งมีคำถามเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจาก 50 ปียังไม่เคยปราฏว่าเกิดน้ำท่วม ทำให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ให้นายธำรงศักดิ์ นคราวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานตราดมาชี้แจง แต่ยังไม่ทันจะชี้แจงทั้งหมด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าได้พูดสวนขึ้นว่า ได้ให้ทางอธิบดีกรมชลประทานเตรียมย้ายเจ้าหน้าที่ที่บกพร่องต่อการปฏิบัตหน้าที่จนทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ ซึ่งมีหลายคน ซึ่งวันนี้ รองเดช(รองอธิบดี)อย่าเพิ่งกลับขอให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยให้แล้วเสร็จก่อนแล้วรายงานมาทีทตนเอง ซึ่งใครที่ทำงานบกพร่องจะต้องรับผิบชอบ เพราะเรื่องนี้ตนเองยอมไม่ไดี เพราะเป็นข้าราชการ ซึ่งแม้จะเป็นวันหยุดก็ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งตนเองยังต้องทำงานทุกวันเลย

 

หลังจากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกับปัญหาต่าง ๆ บริเวณที่ให้สัมภาษณ์คืออ่างเก็บน้ำสระสีเสียด ซึ่งสถานที่นี้เป็นจุดที่มีการปล่อยน้ำที่มีส่วนสำคัญจะต้องมีขั้นตอน. มีแผนระยะยาว เราต้องฟังกรมอุตุนิยมวิทยาตามตลอดเวลาจะมีฝนตกปริมาณขนาดไหน และต้องมาวางแผนว่าแต่ละวันจะปล่อยน้ำยังไง และระ บายน้ำอย่างไรเป็นเรื่องสำคัญ ถือว่าเป็นเรื่องที่กรมชลประทานถอดบทเรียนว่าจะต้องทำอย่างไร การรระบายน้ำเพื่อรองรับการป้องกันน้ำท่วมและเกิดความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ จะต้องมีแผนไม่ใช่ว่ามีวันหยุดราชการหลายวันจะหายกันหมดไม่ได้ ต้องมีคนที่รับผิดชอบตนเองจึงต้องเดินทางมาด้วยตัวเองเพราะเป็นเรื่องเสียหายและตนเองจะไม่ปล่อยให้เกิด จะไม่เอาผิดใครเลยไม่ได้จึงตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อเอาผิด

“ความบกพร่องที่เกิดขึ้นนั้นคงไม่มีเจตนา เพียงแต่ว่าการทำงานอาจจะบกพร่องจากการคาดการณ์อะไรก็แล้วแต่ จะต้องมีคนรับผิดชอบในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องฝนตกปริมาณมากนั้นกรมชลประทานในฐานะที่เป็นผู้บริหารจัดการน้ำ. จะต้องมีการติดตามสถานการณ์น้ำตลอดเวลา เราจะมีวอร์รูมตรวจสอบน้ำทั้ง 77 จังหวัด เรามีศูนย์บริหารจัดการน้ำในทุกจังหวัด ฉะนั้นจังหวัดไหนที่ทำงานแล้วไม่ใส่ใจในเรื่องนี้ ผมจำเป็นจะต้องเอาจริงเอาจัง เพราะฉะนั้นวันนี้ผมต้องเดินทางมาเอง แม้ผมจะมีภารกิจในช่วงเย็น เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาโดยเร็ว“ร.อ.ธรรมนัส กล่าวและว่า การทำงานเรื่องน้ำจะต้อลทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานไม่เกิดความเสียหาย และเรื่องนี้จะไม่ใช้การโยกย้ายอย่างเดียวแต่จะเอาผิดทางวินัยด้วย ซึ่งมั่นใจว่า จะสามารถแก้ปัญหาได้ ทั้งนี้ น้ำในภาคตะวันออกจะมีปริมาณน้ำมาก ซึ่งจ.จันทบุรีและตราดมีฝนตกหนัก

 

 

 

 

ส่วนเรื่องการออกคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วทำไม่ได้นั้น จริงๆผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถสั่งงานได้ แต่หากข้าราชการดื้อก็จะไปว่ากล่าวกัน ส่วนความเสียหายที่เกอดกับทรัพย์ของประชาชนนั้นทางราชการจะเยียวยาให้ตามระเบียบของทางราชการ และหากประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายก็สามารถทำได้เช่นกัน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น