“นายกฯ” เมินกระแสผู้นำสำรอง ย้ำทำงานเต็มที่ ไม่รู้จัก “สามารถ” ไม่สนใจคำแซะไร้ประโยชน์

"นายกฯ" เมินกระแสผู้นำสำรอง ย้ำทำงานเต็มที่ ไม่รู้จัก "สามารถ" ไม่สนใจคำแซะไร้ประโยชน์

นายกฯ” เมินกระแสผู้นำสำรอง ย้ำทำงานเต็มที่ ไม่รู้จัก “สามารถ” ไม่สนใจคำแซะไร้ประโยชน์

วันที่ 1 ส.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจตามปกติ ก่อนที่ลงจากรถมาให้สัมภาษณ์สื่อ ถึงสถานการณ์การเมืองที่หลายฝ่ายจับตาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดี 40 สว.ยื่นถอดถอนนายกฯ ปม แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ว่า ตนได้เซ็นคำแถลงไปแล้วส่งไปตั้งแต่วันอังคารในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ก็ปิดสำนวนไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนมีความมั่นใจหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ไม่อยากไปก้าวล่วงว่ามั่นใจหรือไม่มั่นใจ แต่ตนก็มั่นใจว่ากระทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตบริสุทธิ์ใจ

ขณะที่มีกระแสข่าวว่าจะมีนายกฯสำรองนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ก็แล้วแต่จะพูดกันไปแต่วันนี้ตนยังทำงานเต็มที่ แล้วก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ส่วนวันที่ 14 ส.ค.ศาลตัดสินออกมาอย่างไร ก็น้อมรับ และตนเชื่อว่ากระบวนการทางการเมืองก็มีขั้นตอนของการเมือง แต่วันนี้ตราบใดที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่

นายกฯ เมินกระแสผู้นำสำรอง

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลได้ให้กำลังใจเป็นอย่างดีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็พูดคุยกันดี แต่ไม่ได้เจอ พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลายวันแล้ว ไม่ได้เจอกันเลย เห็นว่าท่านป่วยก็ขอให้หายดี ส่วนเมื่อคืนได้เจอร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็พูดคุยกันดี

นายกรัฐมนตรีปฏิเสธว่ายังไม่เคยพูดคุยในเรื่องกระแสข่าวการปรับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้เรามาโฟกัสปัญหาของบ้านเมืองดีกว่าซึ่งวันนี้จะไปดูปัญหาเรื่องน้ำท่วม

ส่วนที่มีสมาชิกพรรคประชารัฐแสดงความเห็นและนายกนั้นทำให้หวั่นไหวหรือไม่ยืนยันว่าไม่เลย เป็นเรื่องของเขา ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่อย่างที่บอกคำว่าแซะก็มีหลายนัยยะเยอะแยะไปหมด แต่ส่วนตัวโฟกัสในเรื่องเนื้อหาสาระ มากกว่า หากมาแนะนำในเรื่องที่ดี จะเป็นพรรคเดียวกันหรือเป็นฝ่ายค้าน ก็ยินดีรับฟัง แล้วก็รับฟังแก้ปัญหานำไปปฏิบัติ แต่ถ้าเรื่องการแซะที่ไม่มีเหตุไม่มีผลอะไร ตนก็ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

โดยไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้กับร้อยเอกธรรมนัส เพราะเชื่อว่าร้อยเอกธรรมนัส รู้จักตนดีอยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่พูดคุยกับเรื่องพวกนี้ดีกว่า แต่คุยกันเรื่องปัญหาปลาหมอคางดำ คุยกันเรื่องน้ำที่จะท่วม คุยกับเข้าไปคิดว่าเรื่องมีสำคัญมากกว่า

“ท่านธรรมนัสรู้ใจผมดี และผมก็ดีใจทันที ว่าเรื่องอะไรเป็นเรื่องสำคัญ เรามายืนจุดนี้ เพื่ออะไร ก็เพื่อพี่น้องประชาชน แต่ก็ยืนยันว่าหากเป็นเรื่องที่ดี ก็พร้อมรับฟังและถ้าเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่ที่ควรติดต่อกับตัวแทนพรรค ก็จะพูดคุยกันต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น