“ณัฐพงษ์” ลั่นยึดมั่นอุดมการณ์ เดินหน้าแก้ ม.112 ต่อ เหตุศาลรธน.ไม่ห้าม

"ณัฐพงษ์" ลั่นยึดมั่นอุดมการณ์เดิม เดินหน้าแก้ ม.112 ต่อ เหตุศาล รธน.ไม่ห้าม ไม่ประมาท ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี เหตุปัจจุบันกฎหมายนี้ยังมีปัญหา ยันที่ผ่านมามีหลายนโยบาย ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่สถาบันใด ไม่หวั่นพรรคใหม่อายุสั้น จะทำงานอย่างไม่ประมาท

“ณัฐพงษ์” ลั่นยึดมั่นอุดมการณ์ เดินหน้าแก้ ม.112 ต่อ เหตุศาลรธน.ไม่ห้าม – Top News รายงาน

 

ณัฐพงษ์

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ที่ตึกไทยซัมมิท แกนนำพรรคประชาชน ตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังการแถลงข่าวเปิดตัวพรรค โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวถามถึงถึงกรณีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังจากนี้จะลดเพดานลงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า เราไม่เคยสื่อสารว่าลดเพดานอะไร เรายืนยันว่าเราเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 เพื่อไม่ให้มีการกลั่นแกล้งพรรคฝั่งตรงข้าม และคำวินิจฉัยศาลไม่ได้สั่งห้ามแก้ไข แน่นอนว่าเราไม่ประมาท เราทำทุกอย่างรอบคอบ คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา จนยุบพรรคก้าวไกล เราต้องศึกษาอย่างดี แต่คิดว่าพวกเราต้องผลักดันเดินหน้าการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนนี้ที่ปัจจุบันยังมีปัญหาอยู่

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราเซนเซอร์ปิดปากตัวเอง เราเสนอบนหลักการ เราไม่ได้มุ่งเป้าเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันใด ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน เราต้องยึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรายืนยันเดินหน้าทุกอย่างต่อ แต่เราต้องกลับมาศึกษาข้อกฎหมายทุกอย่างด้วย

“การที่บอกว่าเจรจาบนโต๊ะ ในส่วนการทำหน้าที่ในส่วนนี้ หรือพรรคก้าวไกลถูกคำสั่งยุบพรรค จะทำให้การทำงานของเราเปลี่ยนไปหรือไม่ คิดว่าวิธีการปฏิบัติ เราไม่ประมาท เราต้องกลับมาทบทวนเรียนรู้ในส่วนคำตัดสินศาล และประเด็นกฎหมายต่าง ๆ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปคือหลักการและความเชื่อ เราต้องการทำให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน” นายณัฐพงษ์ กล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามถึงคดีความของ 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่อยู่ระหว่างไต่สวนในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คำร้องของ ป.ป.ช.คิดว่าต่างจากการยุบพรรค เพราะเป็นศาลยุติธรรม ต้องพิจารณาเป็นรายกรณี การกระทำของ สส.แต่ละคน องค์ประกอบอาจต่างกันบ้าง บางคนอาจเรียกร้องแทนผู้ชุมนุม บางคนใช้สิทธิประกันตัว แต่ทุกคนได้ลงนามเสนอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งแต่ละคนมีสิทธิชี้แจงกันไป แต่โดยในส่วนของตนไม่มีข้อกังวล

เมื่อถามว่า พรรคประชาชนที่เพิ่งตั้งมานี้จะมีอายุสั้นหรือยืนยาว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สั้นหรือยืนไม่ได้อยู่ที่เรา ที่ผ่านมาเห็นว่าสั้นหรือยืนอยู่ที่กลุ่มขั้วอำนาจเก่า ใช้เครื่องมือในการทุบทำลายเรา เอาสิ่งเหล่านั้นมากดทับไม่ให้เราเดินหน้าต่อก็ไม่ได้ เพราะประชาชนอาจขาดศรัทธาในตัวเรา ยืนยันจะเดินหน้าต่อไป แต่ไม่ประมาท ทำงานด้วยความสุขุมรอบคอบ ดังนั้นอายุยืนหรือไม่อยู่ที่พวกเขาด้วย และอยู่ที่ประชาชนสนับสนุน

เมื่อถามถึงที่ผ่านมา พรรคพยายามมุ่งมั่นแก้ไขเรื่องใหญ่ ๆ เช่น มาตรา 112 นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราเองไม่ได้พุ่งเป้าที่จะเสนอแก้ไขมาตรา 112 อย่างเดียว แต่เสนอแก้ไขเรื่องนโยบายอื่น ๆ ด้วย ตนขอสื่อสารไปยังประชาชนที่อาจยังไม่ได้โหวตเลือกเราในอดีต พรรคประชาชนในปัจจุบันไม่ได้พุ่งเป้าใด ๆ ต่อสถาบันทางการเมืองใด ๆ ก็ตาม เราตั้งใจเสนอนโยบายต่าง ๆ ในโครงสร้างสังคมไทยที่ยังมีปัญหา นี่คือวิธีสื่อสารตรงไปตรงมา ทำงานหนัก และจริงใจ เราคิดว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้น

 

ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวเสริมว่า ในฐานะมีส่วนร่วมจัดทำนโยบายตอนก้าวไกล เรื่องมาตรา 112 เป็น 1 ใน 300 นโยบายที่เราเสนอไป ถ้าเราไปดูสิ่งที่พรรคก้าวไกลทำ เราพยายามแก้ไขทุกสิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศนี้ ตั้งแต่พรรคก้าวไกลที่เราดำเนินการมา เราเสนอร่างกฎหมายไป 60 กว่าฉบับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระจายอำนาจ ยกระดับขนส่ง แก้ที่ดินทำกิน คุ้มครองสิทธิแรงงาน นี่คือสัญญาของพรรคที่พร้อมแก้ทุกปัญหาของประชาชน ถ้าย้อนไปดูในการเลือกตั้งปี 2566 ไม่ใช่ก้าวไกลพรรคเดียว บางพรรคอาจพูดถึงเนื้อหา หรือการบังคับใช้ นี่เป็นคำถามที่ควรถามทุกพรรคเช่นกันว่า ปัญหานี้จะมีทางออกเช่นไร

เมื่อถามย้ำว่า การลดเพดานลง จะรักษาอุดมการณ์เหมือนเดิมได้หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า อะไรที่เราเคยมองว่าเป็นปัญหา เรายังมองว่าเป็นปัญหาอยู่ แต่เข้าใจว่าพื้นที่ที่หาทางออกนั้นแคบลงด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลไม่ได้ห้ามแก้ไขมาตรา 112 เลย ยังมีพื้นที่เหลืออยู่ อาจเป็นเรื่องการพิจารณาอัตราโทษ สิทธิร้องทุกข์กล่าวโทษ เป็นต้น ดังนั้นพื้นที่ที่น่าจะเหมาะสมที่สุดในการพูดคุยหาทางออกเรื่องนี้คือพื้นที่ของสภาฯ และพูดคุยบนพื้นฐานทางออก ภายใต้กรอบของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 2 ครั้งที่ผ่านมาคือ คำวินิจฉัยที่ 3/2567 และ 10/2567

ส่วนการตั้งกรรมการบริหารพรรคแค่ 5 คน เพื่อหลบเลี่ยงอุบัติเหตุทางการเมืองในอนาคตใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การตั้งกรรมการบริหารพรรค 5 คน ไม่ได้หลบเลี่ยงอันตราย แต่เป็นข้อกำหนดขั้นต่ำกฎหมาย เราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงไร้รอยต่อ จากพรรคที่ถูกยุบสู่พรรคประชาชน เราต้องการหาสมาชิก 1 แสนคน บริจาค 10 ล้านภายใน 1 เดือน พวกเรายังเปิดกว้าง หารือในพรรคว่า การออกแบบโครงสร้างพรรคอย่างที่เรียนไปตอนต้น จะมีกรรมการบริหารพรรคสัดส่วนมากขึ้นหรือไม่ ยังหารือในพรรคได้ต่อ อาจได้ข้อสรุปปลายเดือนหน้าจะมีการประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายสายหยุด" แจง 3 ประเด็น ที่มาของเงินเจ๊อ้อย ยันมีหลักฐานเด็ดพิสูจน์ "ษิทรา" ไม่เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง
เจ้าของห้องเช่าร้องสื่อ รถกระบะคอก ขับชนหลังคาพังยับก่อนซิ่งรถหนี
รอดปาฏิหาริย์ ! เด็ก 9 ขวบ ลื้อกระเป๋าเก่า เจองูเห่า
“ภูมิธรรม” รมว.กห.ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญทหารเรือ สอ.รฝ. หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด
เจ็ทสกี แปดริ้ว ดุเดือด ระดับโลกและมือใหม่ลงสนามประลองความเร็ว
อยุธยา เตรียมจัดคอนเสิร์ต AYUTTHAYA concert fest 2024 อย่างยิ่งใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัด
"ทนายเดชา" ลั่น "ผกก.บางซื่อ" คนคุ้นเคย เหตุทนายตั้มเลือกแจ้งคดีเงิน 39 ล้าน
"ธรรมนัส" แจงชัดเจนไม่รู้จัก "ทนายตั้ม" เป็นการส่วนตัว
"ทักษิณ" ตอบปมถูกร้องชั้น 14 บอกแค่คนจะหาเรื่อง ไม่มีอะไร
"ภูมิธรรม" ลงตรวจพื้นที่เกาะกูด พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่กำลังพลกองทัพเรือที่ปฏิบัติงาน ในหน่วยปฏิบัติการ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น