Top news รายงาน วันที่ 17 ส.ค.67 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบริษัทคิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โจทก์ที่ 1 บริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด โจทก์ที่ 2 บริษัทคิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด โจทก์ที่ 3 ร่วมฟ้องคดีหมิ่นประมาท เป็นคดีที่ 13 ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาสั่งยกฟ้อง เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ณ ห้องพิจารณาที่ 505 ว่า
ตนมาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ หน้าที่ 36 -40 โดยตนในฐานะจำเลยที่สองว่า ตนได้รับแต่งตั้งเป็นอนุกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) มีอำนาจหน้าที่ศึกษาการป้องกันและปราบปราม ทั้งข้อกฎหมายและพฤติกรรมของแต่ละโครงการที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบโครงการที่เกี่ยวกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ โดยตรวจสอบใน 2 สัญญาคือ 1. สัญญาโครงการเชิงพาณิชย์ 2. สัญญาร้านค้าปลอดอากร หลังศึกษาเกี่ยวกับสัญญาดังกล่าวแล้ว จึงให้สัมภาษณ์ทางสื่อ กระทั่งถูกกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ฟ้องหมิ่นประมาทหลายคดีรวมทั้งคดีนี้ด้วย เช่นเดียวกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ. 2683-2684 / 2561 ที่มีข้อความ และเนื้อหาเช่นเดียวกับคดีนี้เพียงแต่เป็นคนละวันเวลากัน ซึ่งศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์และศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องทั้งสามศาล โดยวินิจฉัยว่าการให้สัมภาษณ์ของนายชาญชัยไม่ใช่เรื่องที่กล่าวอ้างโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีพยานหลักฐาน หรือกล่าวอ้างขึ้นลอยๆแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องที่มีพยานหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริงแน่ชัด จนกระทั่งในที่สุดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ต้องมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ที่ 2 และ 3 ทราบว่า สัญญาที่ทำกันไว้นั้นไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐพ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) จึงไม่มีผลผูกพันเป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2 และ 3 ยื่นฟ้อง ทอท. ต่อศาลแพ่ง ซึ่งในคำฟ้องดังกล่าว โจทก์ที่ 2 และ 3 ยอมรับว่า การลงทุนในแต่ละโครงการมากกว่า 1,000 ล้านบาท ตามที่สำนักงานผู้การแผ่นดินตรวจสอบ