นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยนางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร่วมแถลงข่าวกรณีนักพัฒนาสังคมทุจริตเงินกลุ่มเปราะบาง หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ ว่า หลังจากมีหลักฐานแน่ชัดว่า นายไพศาล นักพัฒนาสังคม ได้ทุจริตเงินนอกงบประมาณของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ จึงประสานตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลพญาไท, ป.ป.ท., ซึ่งได้ประสานต่อยังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทำให้สามารถจับกุมนายไพศาลได้เมื่อคืนนี้ ตามหมายจับของศาลอาญาลงวันที่ 17 กันยายน ขณะกำลังหลบหนีข้ามแดนที่อำเภอแม่สาย โดยรับสารภาพว่าทำการทุจริตจริง และขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจพญาไท ซึ่งจะเอาผิดและดำเนินคดีกับนายไพศาลจนถึงที่สุด
นางพัชรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ปรับเปลี่ยนรหัสและจะปรับปรุงระบบเทคโนโลยีการโอนเงิน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในอนาคต ซึ่งสาเหตุที่นายไพศาล ทำทุจริตโดยเข้าในระบบได้ เพราะมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านบัญชี ส่วนรหัสการเข้าถึงบัญชี โอนเงินจากบัญชีของกรมจะมีพนักงาน 3 คนมีรหัส ซึ่งในการถอนและโอนเงิน ต้องมีอย่างน้อย 2 ใน 3 คนถึงจะถอนได้ และนายไพศาล รับสารภาพว่าตนรู้รหัสของอีก 2 คน โดยขณะนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว และให้ดูความผิดย้อนหลังไปจนถึงที่สุด
ทั้งนี้จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายไพศาล สารภาพว่าได้กระทำผิดเพียงคนเดียว ส่วนเงินที่ถูกทุจริตนั้นเป็นเงินนอกงบประมาณ ไม่ใช่เงินช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตามกระแสข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเงินนอกงบประมาณ ที่ถูกทุจริตไปเป็นเงินที่มีความเคลื่อนไหวน้อย จึงอาจจะละเลยสายตาของผู้ตรวจสอบบัญชีไปได้ ด้าน ผู้แทนของ ปปง. แจ้งให้ระงับบัญชีของนายไพศาลและทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ผลสอบความเชื่อมโยงทางบัญชีจะเสร็จภายใน 30 กันยายน ขณะนี้กำลังเช็กยอดบัญชีที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นประมาณ 13 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตนยังไม่ปักใจเชื่อว่านายไพศาล ทำคนเดียว ต้องตรวจสอบว่าทำกับผู้ใดหรือไม่ และจะหาวิธีป้องกันการทุจริตในอนาคตอย่างไร
ด้านนางสาวสราญภัทร กล่าวว่า วันนี้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการได้มีคำสั่งให้นายไพศาล พ้นจากหน้าที่และระงับการจ่ายเงินเดือน และได้มีหนังสือถึงเลขาธิการ ป.ป.ง.ให้ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของนายไพศาลโดยด่วน เพราะเป็นนโยบายของกระทรวงต้องทำงานให้สุจริตโปร่งใส ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นระดับผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติการ กระทรวงฯจะไม่ลดหย่อนโทษให้ ไม่ปล่อยประละเลยเอาโทษถึงที่สุด