นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงน.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ชี้รัฐประหาร 49 จุดเริ่มต้นทำประเทศตกหลุมดำ โดยนายเสกสกล กล่าวชี้แจง ว่าหากบ้านเมืองเป็นไปได้ด้วยดี มีความสงบสุข ผู้นำประเทศไม่โกงกินหรือหาแต่ผลประโยชน์ใส่ตัว การรัฐประหารก็คงจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ที่ผ่านมาการรัฐประหารทั้งในช่วงของนายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดจากประชาชนไม่พอใจผู้นำที่เข้ามาเพื่อแสวงหาแต่ผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน มีการทุจริตต่างๆมากมาย จนทำให้ประชาชน นับแสนนับล้าน ทนไม่ไหวออกมาขับไล่ สุดท้ายจะต้องรัฐประหารเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ และตัดวงจรการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นมากมายเต็มแผ่นดิน
ขณะเดียวกัน ตนเองยังมองว่าในขณะที่นายทักษิณ หรือ นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนในประเทศหายยากจน มิหนำซ้ำยังทำให้ชาวนาต้องทนทุกข์ทรมานจากนโยบายรับจำนำข้าว จนชาวนาผูกคอตายไปหลายคนแล้ว ซึ่งโฆษกพรรคเพื่อไทยต้องหัดมองอย่างรอบด้าน และยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นด้วย สิ่งใดที่รัฐบาลทหารทำได้ดีก็ควรยอมรับ และควรยอมรับข้อเสียของนายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยด้วยว่าได้ทำเรื่องอะไรเอาไว้บ้าง อย่าโทษแต่คนอื่นฝ่ายเดียว ความเป็นผู้นำที่ดีต้องมองประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ประชาชนจึงจะยอมรับไม่ต้องออกมาขับไล่บนท้องถนน
“นางสาวอรุณี เพิ่งมาเป็นโฆษกพรรคไม่นาน ไม่ได้รู้สีรู้สาอะไรเลย คงไม่รู้ข้อเท็จจริงมากไปกว่า คนชื่อ แรมโบ้ หรอก เพราะตนเคยอยู่ในครอบครัวนี้ ที่สร้างแต่ปัญหาให้บ้านเมืองปล่อยให้มีการทุจริตเชิงนโยบายและโกงกินมากมากมาย คนที่ได้ประโยชน์จากการบริหารประเทศจ้องกอบโกยเอาแต่ผลประโยชน์คือคนกลุ่มเดียวที่มีอำนาจในรัฐบาล ประชาชนไม่ได้อะไรจากรัฐบาลที่ชอบอ้างว่า เสียงข้างมากมาจากประชาชน เป็นเพียงอาศัยอ้างชื่อประชาชนเพื่อแสวงหาความร่ำรวยให้ครอบครัววงศ์ตระกูลตัวเองมากกว่า จนประชาชนต้องออกมาบนท้องถนนเดินขบวนขับไล่ผู้นำที่เห็นแก่ตัวเหล่านี้ น.ส.อรุณี น่าจะมองภาพออก มิใช่นั่งเทียนหลับตานั่งแถลงข่าว แกล้งไม่รู้ความจริงในอดีตว่า เลวร้ายอย่างไร
“ถ้ายังไม่มีข้อมูลหรือไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในการเป็นผู้นำของคนในเครือข่ายพรรคเพื่อไทย ว่างๆ แวะมาคุยกับคนชื่อ แรมโบ้ได้ จะมีเรื่องเล่าให้ฟังมากมาย เพิ่งเข้ามาอยู่พรรคและเพิ่งเป็นโฆษก อย่าพูดหรือให้ข่าวตามใบสั่งใคร จะเสียภาพพจน์ของโฆษก และจะถูกมองว่า เป็นโฆษกพรรคที่ไร้วุฒิภาวะ ไร้เดียงสาไปเปล่าๆ ตนไม่อยากให้ใครมามองหรือกล่าวหาเช่นนั้น” นายเสกสกล กล่าว