กทม.ยืนยัน พร้อมจ่ายหนี้ BTS คาดดำเนินการก่อนกรอบเวลา 180 วัน

รองผู้ว่าฯกทม. เข้าหารือ “รมช.มหาดไทย” ปมหนี้BTS ยืนยันพร้อมจ่ายหนี้แน่นอน ปัดยื้อ คาดจ่ายก่อน 180 วัน แจงหารืออัยการสูงสุดกรณีป.ป.ช.ชี้มูลอดีตผู้บริหารกทม. แค่ต้องการทราบแนวทางจะดำเนินการยังไงต่อ

กทม.ยืนยัน พร้อมจ่ายหนี้ BTS คาดดำเนินการก่อนกรอบเวลา 180 วัน Top News รายงาน 

 

 

BTS

 

 

 

21 ส.ค.2567 ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เข้าหารือกับนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงกรณีการจ่ายหนี้บีทีเอสในส่วนค่าเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และที่ 2 จำนวน จำนวน 11,755 ล้านบาท ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2567 โดยเมื่อรวมเงินต้นและดอกเบี้ย คิดถึงวันที่ 21 มกราคม 2568 หรือ 180 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา จำนวนเงินที่กทม.ต้องจ่ายให้บีทีเอสมีจำนวน 14,549 ล้านบาท

 

 

นายเกรียง กล่าวว่า ในฐานะที่ตนได้กำกับดูแลกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยเรื่องการฟ้องร้องและมีคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุด โดยเฉพาะประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส จึงเชิญกทม.มาสอบถามความคืบหน้าว่ามีการดำเนินการอย่างไรไปบ้าง และได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า กทม. ได้รีบดำเนินการตามคำสั่งศาล ในการจ่ายหนี้ให้กับเอกชน โดยแจ้ง บริษัท กรุงเทพธนาคม ให้ประสานหารือกับเอกชน ในเรื่องของสัญญาที่ได้ทำไว้กับบีทีเอส จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะเดียวกัน กทม. ได้เร่งประสานกับฝ่ายกองคลังของกทม รวมถึงประสานไปยังกรมบังคับคดีในเรื่องของวงเงิน ซึ่งขณะนี้กทม.กำลังเร่งดำเนินการเพื่อส่งเรื่องไปยังสภากทม. เพื่อขอความเห็นชอบจากสภากทม.อีกครั้งในการจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการโดยเร็ว อีกทั้งตนได้สั่งการให้กทม.เร่งดำเนินการเจรจากับผู้ประกอบการโดยเร็วที่สุด และในเรื่องคำสั่งศาลปกครองสูงสุด กทม.ก็ได้เร่งดำเนินการทุกขั้นตอนเพื่อจ่ายหนี้ให้กับเอกชนโดยเร็วที่สุด

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่นายวิศณุ ชี้แจงกรณีจะนำเรื่องที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดอดีตผู้บริหารกทม. กับพวกให้แก่ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาว่า ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นการใช้หนี้ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กทม. ได้เร่งทำเรื่องเข้าสู่สภากทม. เพื่อพิจารณาว่าจะต้องใช้งบประมาณสะสมจ่ายขาด ซึ่งจะต้องผ่านการพิจารณาของสภากทม. ส่วนประเด็นอื่นเป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่ทางกทม. ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไป ซึ่งได้ปรึกษาอัยการสูงสุดว่าจะต้องมีการดำเนินการเช่นไรต่อไป โดยเป็นเรื่องของกรณีอื่นที่เกี่ยวข้อง แต่กรณีคำสั่งศาลก็ต้องเดินหน้าต่อไป

ส่วนไทม์ไลน์การใช้หนี้ให้แก่เอกชนตามคำสั่งศาลนั้น จะจ่ายหนี้ให้กับเอกชนในเร็วๆนี้ โดยศาลปกครองสูงสุด ได้ให้ระยะเวลาในการชำระหนี้ 180 วัน แต่ตนคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการจ่ายหนี้ให้เอกชนไม่เกิน 100 วัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังคงเดินอยู่ทุกวัน และขณะนี้ กทม.ก็ได้ตัวเลขจากกรมบังคับคดีมาแล้ว ก็จะส่งเรื่องไปยังคลัง ก่อนจะส่งต่อไปยังสภากทม.เรียกประชุมด่วน โดยคาดว่าจะนำเรื่องเข้าสู่สมัยประชุมวิสามัญในเดือนนี้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ

 

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กทม. จะยืดหนี้ออกไป โดยการโต้เเย้งเรื่อง ป.ป.ช.ชึ้มูลความผิดอดีตผู้บริหาร กทม.นั้น นายวิศณุ ยืนยันว่า เรื่องนั้นเป็นคดี 2 ที่ค้างอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องข้อเท็จจริงธรรมดา เราไม่ทราบจริงๆว่าการชี้มูลของป.ป.ช.จะมีผลอะไรอย่างไร จึงต้องทำหนังสือถามไปยังศาลว่าการชี้มูลของปปช.มีผลมากน้อยแค่ไหน เพราะยังไม่ได้มีการฟ้อง จึงต้องสอบถามศาลปกครองสูงสุดดังนั้นข่าวที่มีการนำเสนอว่า กทม. จะยืดหนี้ เบี้ยวหนี้ หรือไม่จ่ายหนี้ ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ว่ากทม.จะไม่จ่ายหนี้ ยืนยันว่าการจ่ายหนี้ให้เอกชน ยังเป็นไปตามไทม์ไลน์เดิมและเร็วกว่าเดิม ก็จะสามารถชำระเงินให้เอกชนได้ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับสภากทม. เพราะเป็นผู้อนุมัติงบประมาณจากสะสมจ่ายขาด

ส่วนหนี้ก้อนอื่น ๆ ที่กทม.ยังค้างจ่ายและศาลปกครองยังไม่ได้พิจารณาจะดำเนินการเช่นไร นายวิศณุ กล่าวว่า หนี้ก้อนอื่นๆได้มอบหมายให้กรุงเทพธนาคมไปเจรจากับภาคเอกชน เนื่องจากมีประเด็นในเรื่องของข้อต่อสู้ทางคดี เพราะการจ้างเดินรถส่วนต่อขยายที่ 2 ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาของสภากทม. ซึ่งสิ่งที่เราดำเนินการได้ก็คือ ค่าโดยสารที่เราเริ่มเก็บ ก็จะชำระไปก่อน แต่ส่วนต่างจากค่าจ้างเดินรถกับรายรับที่ได้จากค่าโดยสาร ต้องให้สภากกทม.เป็นคนพิจารณา ซึ่งก็มี ดังนี้ ให้กรุงเทพธนาคมไปเจรจาส่วนต่อขยายที่2กับภาคเอกชน ทำสัญญาให้ถูกต้องตามกฏหมาย ก่อนนำมาขอความเห็นชอบกับสภากทม. อีกครั้ง เพื่อให้สัญญาส่วนที่สองผ่านสภากทม.ให้ถูกต้อง ทั้งนี้หากการเจรจาร่วมกับเอกชนได้ข้อยุติที่ดี และสภากทม.เห็นชอบ ก็ไม่มีประเด็นที่จะต้องสู้ในศาล

 

ส่วนความกังวลในเรื่องการจ่ายหนี้ในครั้งนี้นั้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่สูง ก็เป็นภาระให้กับกทม.จึงต้องดำเนินการโดยเร็ว แต่ยืนยันว่าไม่กระทบต่อสถานภาพของกทม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ลุค อิชิคาว่า" นักแสดงลูกครึ่ง ร้องปอท.ถูกใส่ร้ายผ่านโซเชียลฯ สร้างความเสื่อมเสีย วอนชาวเน็ตอย่าเชื่อพวกหิวแสง
แน่นสำนักพม.ขอนแก่น "ผู้พิการ" แห่ต่ออายุ-ทำบัตรใหม่ รอรับเงินหมื่น
สุดเศร้า "สาวใหญ่" ร้องถูก "ผัวตำรวจ" ซ้อมอ่วม ซ้ำพยายามล่วงละเมิดลูกเลี้ยง ยันขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
บริษัทผลิตเพจเจอร์มรณะที่แท้เป็นของอิสราเอล
เลบานอนแบนเพจเจอร์และวอล์กกี้ทอล์กกี้บนเครื่องบิน
“ชนินทร์” จวก “เท่าพิภพ” หยุดเอาดีเข้าตัว ป้ายผู้อื่นเป็นโจรสลัด ชี้ปมร่างสุราก้าวหน้า ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง ต้องแสวงหาความร่วมมือ
คุณยายครูเบญเปิดใจทั้งน้ำตา หลังจากที่หลานสาวสอบติดพนักงานราชการแต่ชื่อหาย
"ซีอีโอ TSB" เปิดใจ พัฒนารถเมล์ก้าวสู่ปีที่ 3 พร้อมรับฟัง-นำข้อมูลปรับปรุงทุกจุด ประกาศชัด "รถเมล์คนไทยโตอย่างยั่งยืน"
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกิจกรรมประชุมสภากาแฟครั้งสุดท้าย ก่อนเกษียณอายุราชการ พร้อมปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำจำนวน 2 แสนตัว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมประมง
"พิพัฒน์-สุรศักดิ์" จับมือ สร้างโอกาส นศ.ทำงานปิดเทอม หมื่นอัตรา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น