RT และหนังสือพิมพ์อิซเวสเทียของรัสเซียรายงานข่าววันนี้ (พุธที่ 21 สค.) โดยอ้างแถลงการณ์ของหน่วยข่าวกรองรัสเซียหรือ SVR ที่ออกมากล่าวหาสหรัฐ, อังกฤษ, เยอรมนีและโปแลนด์ว่าอยู่เบื้องหลังการฝึกปฏิบัติโจมตีให้กับหน่วยรบยูเครนที่ฝ่าจุดผ่านแดนรัสเซียเข้ามาโจมตีแคว้นคูสค์เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของ SVR เผยว่าจากข้อมูลที่ได้มาพบว่าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐ, อังกฤษและโปแลนด์มีส่วนในการช่วยเตรียมความพร้อมให้กับกองกำลังยูเครนในการโจมตีจุดข้ามแดนรัสเซีย ขณะที่หน่วยรบยูเครนกลุ่มนี้เคยถูกส่งไปฝึกอังกฤษและเยอรมนี และได้รับความช่วยเหลือด้านคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร ตลอดจนจัดหาอาวุธที่ผลิตในชาติตะวันตก รวมทั้้งรถหุ้มเกราะสไตรเกอร์ของสหรัฐและรถหุ้มเกราะมาร์เดอร์จากเยอรมนี นอกจากนี้ชาติสมาชิกนาโตเหล่านี้ยังให้ความช่วยเหลือทหารยูเครนโดยคอยแจ้งความเคลื่อนไหวของทหารรัสเซียโดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม
แล้วเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 20 สค.) กระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้เรียกตัวอุปทูตประจำกรุงมอสโกวเข้าพบกรณีที่สหรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการโจมตีคูสค์ของกองกำลังยูเครน รวมทั้งกรณีที่นักข่าวอเมริกันลักลอบข้ามพรมแดนเข้าไปในรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย เพื่อเก็บภาพและทำข่าวปฎิบัตการโจมตีจุดผ่านแดนที่คูสค์ของหน่วยรบยูเครน ซึ่งรัสเซียชี้ว่าเป็นพฤติกรรมที่ยั่วยุ
ทั้งนี้แถลงการณ์ของหน่วยข่าวกรองรัสเซียสวนทางกับของรัฐบาลไบเดนที่ยืนยันว่าสหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกโจมตีแคว้นคูสค์ของกองกำลังยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยอ้างเหตุผลที่ในการโจมตีคูสค์ว่าเพื่อสร้างเขตกันชนในดินแดนรัสเซีย ทำให้รัสเซียต้องสั่งอพยพชาวบ้านออกจากคูสค์หลายแสนคน แต่ทหารยูเครนเองก็เผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักจากกองทัพรัสเซีย โดยกลาโหมรัสเซียเผยว่าเฉพาะเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 20 สค.) ยูเครนได้สูญเสียทหารไป 350 นายและรถหุ้มเกราะอีก 25 คันระหว่างปฎิบัตการในคูสค์