“ผู้ว่าฯ แพร่” สั่งการทุกภาคส่วนรับมือน้ำยมล้นตลิ่ง ย้ำติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ผู้ว่าฯ แพร่ สั่งการทุกภาคส่วนรับมือน้ำยมล้นตลิ่ง เน้นย้ำติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือ โทรสายด่วน 1567 หรือ 1784 ทันที

“ผู้ว่าฯ แพร่” สั่งการทุกภาคส่วนรับมือน้ำยมล้นตลิ่ง ย้ำติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ผู้ว่าฯ แพร่

 

วันนี้ (23 ส.ค. 67) นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ทำให้มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งจังหวัดแพร่ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยในเวลาช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา มวลน้ำจำนวนมากได้ไหลจากลำน้ำยมมาในพื้นที่จังหวัดแพร่ ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ รวม 18 ตำบล 65 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 99 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งในขณะนี้ยังต้องเฝ้าระวังมวลน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในแม่น้ำยมอย่างต่อเนื่อง เข้าท่วมพื้นที่อาศัยของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนเตรียมตัวรับมือโดยเร่งด่วน

นายชุติเดช กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมในพื้นที่จังหวัดแพร่ มีมวลน้ำจำนวนมากกำลังไหลผ่าน ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอร้องกวาง อำเภอสอง อำเภอเมืองแพร่ อำเภอหนองม่วงไข่ รวมทั้งหมด 4 อำเภอ 18 ตำบล 65 หมู่บ้าน 99 ครัวเรือน และในบริเวณสะพานข้ามลำน้ำยมบริเวณบ้านวังดิน หมู่ 9 ต.บ้านกลาง อ.สอง ขาดไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดการสัญจรโดยให้เลี่ยงให้เส้นทางอื่น โดยในวันนี้(23 สิงหาคม 2567) สำนักทางหลวงที่ 17 เชียงราย และเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการติตตั้งสะพานแบรี่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้สัญจรชั่วคราวต่อไป

“ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นชาย อายุ 54 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ได้เดินทางออกจากบ้านไปย้ายสัตว์เลี้ยง (กระบือ) เนื่องจากเกิดฝนตกหนัก และได้ข้ามลำห้วยแม่เต้น บริเวณท้ายหมู่บ้าน ได้ถูกกระแสน้ำลำห้วยแม่เต้นพัดจมน้ำเสียชีวิตบริเวณลำห้วย และมอบศพให้กับญาติบำเพ็ญกุศลแล้ว” นายชุติเดช กล่าวเพิ่มเติม

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายชุติเดช กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ที่คาดการณ์เบื้องต้นไว้ โดยปัจจุบันฝนหยุดตกแล้ว ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนราชการ กำลังลงพื้นที่สำรวจความช่วยเหลือ ทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่สองฝั่งลำน้ำยม ดังนี้ อำเภอเมืองแพร่ ได้แก่ ตำบลวังหงส์ แม่หล่าย ท่าข้าม แม่ยม วังธง แม่คำมี ป่าแมต อำเภอสูงเม่น ได้แก่ ตำบลเวียงทอง ร่องกาศ สบสาย สูงแม่น น้ำชำ น้ำชำ บ้านปร อำเภอเด่นชัย ได้แก่ ตำบลปงปาหวาย เด่นชัย ไทรย้อย อำเภอลอง ได้แก่ ตำบลบ้านปิน แม่ปาน ปากกาง แม่ลานนา ทุ่งแล้ง บ่อเหล็กลอง และ อำเภอวังชิ้น ได้แก่ ตำบลแม่เก๋ง วังชิ้น

“โดยการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วม และ การให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้
เจ้าหน้าที่ได้เตรียมรองรับปริมาณน้ำจาก อ.เชียงม่วน อ.ปง จ.พะเยา โดยการใช้ฝ่ายแม่ยมควบคุมปริมาณน้ำหลาก หากมีปริมาณน้ำเริ่มไหลเข้าสู่ฝ่ายแม่ยม จะทำการหน่วงน้ำด้านเหนือฝ่ายเพื่อชะลอปริมาณนำหลากลงสู่ด้านท้ายฝ่ายอำเภอเมืองแพร่ ซึ่งถ้าหากมีความจำเป็นให้รักษาพื้นที่เขตเมืองและเขตเศรษฐกิจของจังหวัดแพร่ โดยให้ผันน้ำลงสู่พื้นสู่พื้นที่การเกษตรและมอบหมายสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดแพร่ และสำนักงานเกษตรจังหวัดแพร่หาแนวทางเตรียมพร้อมในการเยียวยาเกษตรกรในกรณีผันน้ำเข้าสู่พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย

ซึ่งหากเปรียบเทียบระหว่างความแตกต่างของสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดแพร่ เมื่อปี 2554 มีพายุทั้งหมด 5 ลูก ทำให้มีปริมาณน้ำฝน น้ำท่า และการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำ ทำให้มีปริมาณน้ำมาก ในขณะที่ ปี 2567 ในพื้นที่จังหวัดแพร่ ไม่มีฝนตก ไม่มีการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำ มีเพียงปริมาณน้ำจากจังหวัดพะเยาที่ไหลเข้าสู่พื้นที่จังหวัดแพร่ จึงขอให้พี่น้องประชาชน ได้โปรดอย่ากังวลหรือตื่นตระหนก ขอให้เตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ในขณะนี้อย่างเต็มที่ เพื่อที่จะป้องกันความเสียหายได้มากที่สุด

นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวในช่วงท้ายว่า ขณะนี้ตนได้มีการมอบหมายภารกิจให้กับหน่วยงานต่างๆ ในการบริหารจัดการน้ำอย่างชัดเจน เช่น โครงการชลประทานแพร่ มีภารกิจในการบริหารจัดการน้ำ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยมมีภารกิจในการระบายน้ำจากฝ่ายน้ำยม รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ และรถผลิตน้ำดื่ม เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่และผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและยังไม่ได้รับการให้ความช่วยเหลือขอให้แจ้งข้อมูลมาที่สายด่วนนิรภัย 1784 หรือ สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม ที่ 1567 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งให้การช่วยเหลือต่อไป”

 

   

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ป้าย สุดเจ๋ง "รับซื้อบ้านผีสิง" เจ้าของป้ายรับซื้อจริง มารีโนเวทขาย
"สุดาวรรณ" เยี่ยมชมชุมชนชาวเลสังกาอู้-วิถีวัฒนธรรมชาวเลอูรักลาโวยจ จ.กระบี่
สจ.ธรรมชาติฟ้องตรงอัจฉริยะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
อย.ตรวจพบสารอันตรายใน อาหารเสริม “กัมมี่” แบรนด์ดัง เร่งดำเนินคดีตามกม.ผู้ผลิต
กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ
ตระกูล "สิงห์โตทอง" ทิ้งกระจาด ข้าวสาร-อาหารแห้ง 1 พันชุด ย้อนรำลึก "อดีตสส.ดรงค์ สิงห์โตทอง" ผู้ก่อตั้งสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ในวันชาวไร่อ้อยชลบุรี
สมศักดิ์ เผย มี ปชช. ร่วมนับคาร์บ ลดป่วย NCDs แล้วกว่า 6.4 แสนคน เดินหน้าอีก 16จว.กลาง-ตะวันออก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น