สิงคโปร์ยกระดับเฝ้าระวังฝีดาษลิง ติดตั้งจอตรวจจับอุณหภูมินักเดินทางในสนามบินและท่าเรือ และสุ่มตรวจบางราย
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ แถลงในคืนวันพฤหัสบดี จะดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของ เอ็มพอกซ์ หรือฝีดาษลิง โดยจะทำการตรวจคัดกรองอุณหภูมิ พนักงานสายการบินและนักเดินทางต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศผ่านทางสนามบินชางงี และเซเลสตาร์ รวมถึงจะมีการตรวจแบบเดียวกัน กับกลุ่มนักเดินทางที่มาจากบริเวณที่เอ็มพอกซ์ระบาด ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองในท่าเรือ
พร้อมเรียกร้องให้นักเดินทางปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และกล่าวว่า นักเดินทางที่มีไข้ ผื่น หรือมีอาการที่เข้าข่าย จะถูกส่งต่อไปเพื่อรับการประเมินทางการแพทย์ อีกทั้งออกแนะนำให้นักเดินทางรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยส่วนบุคคลในระดับสูง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่นการเปลี่ยนคู่นอน หรือมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ผู้ที่เดินทางกลับ โดยเฉพาะจากประเทศที่มีการระบาด ควรไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการ รวมถึงมีไข้หรือมีผื่น ภายใน 21 วัน
จนถึงขณะนี้ สิงคโปร์ยังไม่พบผู้ป่วยเอ็มพอกซ์ สายพันธุ์ เคลด1 สายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีความรุนแรง ,แพร่เชื้อได้ง่ายกว่า และกำลังระบาดหนักขณะนี้ โดย ณ วันพฤหัสบดี มีการตรวจพบผู้ป่วยเอ็มพอกซ์ที่ได้รับการยืนยันแล้ว 13 รายในสิงคโปร์ในปีนี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นการติดเชื้อพันธุ์ เคลด 2 ที่มีความรุนแรงน้อยกว่า ในเดือนสิงหาคม WHO ได้ประกาศให้ เอ็มพอกซ์ ให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วโลกเป็นครั้งที่สองในรอบสองปี หลังจากการระบาดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกที่แพร่กระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์กล่าวว่า กำลังติดตามสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่า การระบาดโดยทั่วไปยังคงจำกัดอยู่ในแอฟริกา โดยผู้ป่วยนอกเคลด 1 นอกแอฟริกาตอนนี้มีเพียง 2 รายที่สวีเดน และไทย และยังไม่มีรายงานการแพร่ระบาดในทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้แนวทางการฉีดวัคซีนป้องกันจะมุ่งเน้นไปที่บุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเอ็มพอกซ์ เท่านั้น และยังไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนทั่วทั้งประเทศ แต่จะมีการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ต่อไป