อดีตเด็กวัดแสบเข้ามาขออาศัยอยู่ในวัดได้ 2 เดือนถูกเจ้าอาวาสจับได้ว่าเสพยา จึงไล่อออกจากวัด กระทั่งพระลูกวัดเข้าไปในโบสถ์เพื่อทำวัตร พบพระพุทธรูป แจกัน กระถางธูป และเชิงเทียนรูปหงส์ ซึ่งเป็นทองเหลืองหายไปหมด จึงเดินทางไปแจ้งความ เมื่อกลับถึงวัดรู้สึกเอะใจ ให้ลูกศิษย์ไปเปิดศาลาเผาศพที่อยู่ข้างโบสถ์ กับช็อคหนัก เมื่อพระประธานขนาดหน้าตักกว้าง 30 นิ้ว และพระพุทธรูปขนาด 9 นิ้ว ก็หายไปพร้อมกับเครื่องทองเหลืองที่วางอยู่บนโต๊ะหมู่บูชา
ข่าวที่น่าสนใจ
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังวัดคู้เกษมสโมสร โดยภายในศาลาเผาศพ พบการรื้อค้นบริเวณโต๊ะหมู่บูชา พานดอกไม้จันทน์หล่นกระจายอยู่ที่พื้น ส่วนโต๊ะหมู่บูชาเหลือเพียงโต๊ะเปล่า แจกัน กระถางธูป ทองเหลือง รวมถึงพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ขนาด 9 นิ้วได้หาย และพระประธานขนาด 30 นิ้วที่อยู่ด้านหลังพระพุทธธูปก็ได้หายไป เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังพบว่า แจกันทองเหลือง กระถางธูปทองเหลือง แท่นเทียน รูปเรือหงส์ ทองเหลือง และพุทธรูปทองเหลือง ภายในโบสถ์ของทางวัดก็หายไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้วัดต้องนำกระถางต้นไม้ ใส่ทรายมาเป็นกระถางธูปแทน และใช้แจกันเซรามิคชั่วคราว เพื่อให้พระสามารถเข้ามาทำวัตรเช้า-เย็นได้
พระอธิการไพศาล เปิดเผยว่า ตนเองมาทราบเรื่องจากพระสงฆ์ ภายในวัดที่เข้าไปในโบสถ์เพื่อทำวัตร ช่วงเย็นวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา จึงเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อหาตัวคนร้าย ซึ่งหลังเดินทางกลับมาจากโรงพัก ด้วยความเอะใจจึงให้ลูกศิษย์ไปเปิดศาลาเผาศพ ที่อยู่ข้างๆโบสถ์ เพราะไม่ได้ล็อคประตูเอาไว้ เมื่อลูกศิษย์เข้าไปสำรวจก็พบว่า พระประธานปางนั่งสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 30 นิ้ว ซึ่งเป็นทองเหลือง พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว รวมถึงแจกัน กระถางธูป ที่เป็นทองเหลืองได้หายไปทั้งหมด โดยมีการรื้อค้นกระจัดกระจายในบริเวณนั้นโดยตนเองคาดว่าน่าจะเป็น นายโย อายุประมาณ 40 ปี ที่เคยมาขอพักอาศัยอยู่ที่วัดได้ประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา จนตอนหลังตนเองทราบถึงพฤติกรรมที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้ไล่ออกจากวัดไปได้ไม่นาน น่าจะย้อนกลับมาขโมยของเพื่อนำไปขายแลกยาเสพติดมาเสพ ซึ่งก่อนหน้านี้มีเงินของพระลูกวัดได้หายไป แต่ก็ยังไม่สามารถรู้ว่าใครเป็นคนเอาไป โดยเพิ่งจะมาหาย ช่วงที่นายโย มาพักอาศัยอยู่ที่วัดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-