ยังไม่รู้ชะตากรรม จนท.เร่งช่วยชีวิต 3 คนงาน หลังดินถล่ม ทับอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงโคราช

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า อุโมงค์รถไฟคลองไผ่ดำเนินการขุดอุโมงค์เกือบจะแล้วเสร็จ โดยในปัจจุบันได้ขุดเจาะอุโมงค์ได้ความยาวประมาณ 4,100 เมตร ภายในอุโมงค์ในระหว่างการก่อสร้างมีการทำผนังอุโมงค์ไว้ตลอดแนว โดยบริเวณที่เกิดเหตุชั้นหินและดินทรุดตัวภายในอุโมงค์ ความยาวประมาณ 10-30 เมตร อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำผนังอุโมงค์ ซึ่งในขณะนี้ การรถไฟฯ ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ภายใน จำนวน 3 คน ประกอบด้วย

• 1. นายหูเสียงหมิ่น เพศชาย สัญชาติจีน (ผู้ควบคุมงาน)
• 2. นายตงชิ่นหลิน เพศชาย สัญชาติจีน (ขับแม็คโคร)
• 3. เพศชาย ไม่ทราบชื่อ (ผู้ขับรถบรรทุก) อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง

นายเอกรัช เผยว่า การช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในโมงค์ ได้เร่งระดมความช่วยเหลือทำการขุดดินภายในอุโมงค์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญควบคุมการสั่งการเพราะเกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางธรณีวิทยาและเทคนิคการก่อสร้างอุโมงค์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

จนกระทั่งเวลา 17.00 น. ทีมกู้ภัยสามารถขุดเปิดดินส่วนบนที่ทรุดตัวภายในอุโมงค์ออกได้บางส่วนแล้ว และกำลังเร่งสอดท่ออากาศที่ใช้ในการปั๊มออกซิเจนเข้าไปภายในบริเวณที่คนงานติดอยู่ ซึ่งเหลือระยะทางอีกประมาณ 20 เมตร โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง หลังจากนั้น จะสอดท่อช่วยชีวิต ขนาดความกว้าง 1.20 เมตร เพื่อช่วยเหลือคนงานออกมา คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการแล้วเสร็จไม่เกิน 12 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้เจ้าที่รถไฟที่เกี่ยวข้องทำการประเมินติดตามสถานการณ์โครงการก่อสร้างรถไฟแห่งอื่นที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างทุกโครงการโดยเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่ที่มีฝนตกหนัก หรือมีความเสี่ยงเผชิญเหตุน้ำท่วม ดินสไลด์ น้ำป่าไหลหลาก อย่างใกล้ชิด และให้ยึดถือการปฏิบัติงานตามคู่มือมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญ

ด้านนายจเร รุ่งฐานีย รักษาการผู้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เผยว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายใน นอกจากการทยอยขนดินที่ถล่มออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ยังช่วยต่อท่ออากาศจากด้านนอกเข้าไปยังจุดที่ถล่มเพื่ออัดอากาศและออกซิเจนเข้าไปในพื้นที่ที่คาดว่าคนงานทั้ง 3 คนอยู่ แม้ขณะนี้จะยังไม่พบสัญญาณชีพ โดยเบื้องต้นต้องเร่งค้นหาผู้สูญหายก่อน

ขณะที่การเข้าไปช่วยเหลือยังต้องประเมินความเสี่ยง เพื่อให้ทั้งผู้ประสบเหตุและเจ้าหน้าที่ชุดที่ต้องเข้าช่วยเหลือปลอดภัยที่สุด และต้องไม่เสี่ยงเกิดเหตุซ้ำซ้อน และจะใช้หลักกู้ภัยตามปกติไม่ได้ ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะสภาพพื้นที่ยังมีดินถล่มลงมาต่อเนื่อง