นายกสมาคมทนายฯ หนุนทุกฝ่ายเร่งแก้รธน. ป้องกันใช้มาตรฐานจริยธรรม ตัดสินคดีการเมือง

นายกสมาคมทนายฯ หนุนทุกฝ่ายเร่งแก้รธน. ป้องกันใช้มาตรฐานจริยธรรม ตัดสินคดีการเมือง

นายกสมาคมทนายฯ หนุนทุกฝ่ายเร่งแก้รธน. ป้องกันใช้มาตรฐานจริยธรรม ตัดสินคดีการเมือง Top News รายงาน 

 

 

26 ส.ค.2567 นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เผยบันทึกจากนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ระบุว่า

บันทึกจากนายกสมาคมทนายความฯ

ศาลหรือผู้พิพากษามีหน้าที่ตัดสินคดีที่เกิดจากการกระทําของบุคคลอันเป็นการพิจารณา วินิจฉัยในเรื่องของการกระทําที่ปรากฏออกมาแล้วว่า การกระทํานั้นเป็นไปตามกฎหมายหรือขัด ต่อกฎหมายที่บัญญัติไว้แล้วโดยชัดแจ้งหรือไม่
ส่วนเรื่องจริยธรรม ไม่ใช่การกระทําที่ผิดต่อกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของการกระทําที่ควร หรือไม่ควร เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ซึ่งแต่ละสังคมหรือแต่ละองค์กรจะมีบริบทและวัฒนธรรมที่ แตกต่างกัน เช่น สังคมผู้พิพากษาจะเคร่งครัดเรื่องการคบค้าสมาคมกับคนทั่วไป ส่วนสังคม การเมืองจะแตกต่าง เพราะนักการเมืองเป็นผู้แทนของประชาชนจึงต้องคบค้ากับผู้คนทุกระดับ เป็นต้น ดังนั้นทั่วโลกจึงถือหลักเดียวกันว่าให้คนในองค์กรนั้น เป็นผู้วินิจฉัยความควรหรือไม่ควร เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมกับคนในองค์กรของตน

ประเทศไทยและทั่วโลกก็ยึดหลักการนี้มาตลอด จนกระทั่งมีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หลักการนี้ก็เปลี่ยนไป โดยก่อนหน้านี้การพิจารณาความผิดทางวินัยของผู้พิพากษา ก็เป็นหน้าที่ ของคณะกรรมการตุลาการที่ผู้พิพากษาเลือกกันเองเป็นผู้พิจารณาหรือการกระทําผิดวินัยของ ข้าราชการอื่น ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานต้นสังกัด ที่จะตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบวินัยของ ข้าราชการผู้นั้น หรือกรณีการถอดถอนประธานาธิบดีก็ให้เป็นอํานาจของ ส.ว. ซึ่งมาจากการ เลือกตั้งของประชาชนเช่นกัน เป็นผู้ลงมติถอดถอนอันเป็นไปตามหลักทั่วไปที่ว่า “ใครตั้งใครถอน” เมื่อประชาชนเป็นผู้แต่งตั้ง ก็ต้องให้ประชาชนเท่านั้นเป็นผู้ถอดถอน ยกเว้น กรณีที่เกิดกับพรรค การเมืองและนักการเมืองของประเทศไทย ที่ให้ศาลซึ่งมิได้มาจากประชาชนเป็นผู้มีอํานาจถอดถอน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 จึงถูกออกแบบมาเพื่อให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมใช้เป็นเครื่องมือในการ ควบคุมฝ่ายการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยเบียดบังอํานาจของประชาชนให้กับ ปปช. และศาล ซึ่งมีลักษณะเป็นรัฐราชการ ใช้มาตรฐานทางจริยธรรมซึ่งเป็นเรื่องของสํานึก แต่ ไม่ใช่การกระทําที่ผิดกฎหมายเป็นเครื่องมือครอบงําพรรคการเมือง และนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ทําให้ประเทศไทยซึ่งอาจจะเป็นประเทศเดียวในโลก ที่ให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัยและลงโทษต่อการ กระทําที่ไม่ผิดต่อกฎหมาย จนนํามาซึ่งการยุบพรรคก้าวไกล และการตัดสิทธิทางการเมืองของ นักการเมืองที่มาจากประชาชน ซึ่งหากทุกฝ่ายยังไม่ร่วมมือกันเพื่อเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว กติกาดังกล่าวก็จะก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปัญญารัตน์" สส.นนทบุรี อวดคลิปขอบคุณทหาร มาช่วยตัดกิ่งไม้ให้ปชช. ชาวเน็ตรีบห่วง หวั่นเจอพรรคเฉ่ง
“จักรภพ” โต้ “ด้อมส้ม” ตอบชัดเจน ปมหนีคดีลี้ภัย
"อุตุฯ" เตือน 51 จังหวัด รับมือฝนถล่มหนัก กทม.โดนด้วย ร้อยละ 70 ของพื้นที่
สสจ.กรุงเก่ามอบป้ายโรตีสายไหมปลอดภัย 42 ร้าน
"สพม.สระแก้ว" ประกาศเลื่อน "พนักงานราชการ" เข้ารายงานตัว รอผลสืบสวน "ครูเบญ" ชื่อหายเสร็จสิ้น
"กสร.สมุทรปราการ" จ่อสอบ "หัวหน้างาน" ชี้แจงปมสั่ง "พนักงานป่วย" ทำงานจนเสียชีวิต
"วัน อยู่บำรุง" ยัน "บิ๊กป้อม" อารมณ์ดี ไม่ซีเรียส ปมคลิปเสียงหลุด
บางละมุง-พัทยา ส่ง ธารน้ำใจช่วยพี่น้องคนไทยน้ำท่วมเมืองหนองคาย
ทบ.จัดกำลังพล ใช้ล่อขนเครื่องอุปโภค บริโภค ช่วยปชช. ดินสไลด์ ปิดเส้นทาง 4 หมู่บ้านเชียงราย
"นายแพทย์สาธารณสุข" สมุทรสาคร ยืนยัน "รพ.กระทุ่มแบน" รักษา 2 ทารกฟรี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น