วันที่ 20 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวลำเนา ธิตะปัญ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 7 ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้าน ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน หลังมี นางบี อายุ 62 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่วัดถ้ำพระสีวลี พื้นที่ตำบลกลางดง ได้สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับวัด โดยมีการใช้เครื่องขยายเสียงในยามวิกาล ด่าทอชาวบ้าน ไม่มีเหตุมีผล ทั้งที่เข้าไปว่ากล่าวตักเตือน อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าวก็เป็นการพักผ่อน ชาวบ้านจึงได้เข้าไปพูดคุยกับพระครูสิริสารสัมบัน เจ้าอาวาสวัดถ้ำพระสีวลี เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ก็ไม่มีการว่ากล่าวตักเตือนนางบี แต่อย่างใด พร้อมยังเพิกเฉยให้นาง บี ด่าชาวบ้านด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย จึงทำให้ชาวบ้านไม่อยากจะใส่บาตรหรือทำบุญวัดดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือถึง พระวินัยโมลี รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธรรมยุต) เจ้าคณะอำเภอปากช่อง (ธรรมยุต ) ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอปากช่อง และสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา ต่อมา ทางเจ้าคณะตำบลกลางดง-ดงพญาเย็น (ธรรมยุต) พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าอาวาสวัดถ้ำพระสิวลี โดยตรง สมควรใช้อำนาจของเจ้าอาวาสตาม พรบ.สงฆ์ พ.ศ.2505 หมวด 5 มาตรา 38 เจ้าอาวาสมีอำนาจในข้อ 2 สั่งให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสออกไปเสียจากวัด แต่ก็ยังพบว่านางสาวบี ก็ยังอาศัยอยู่ที่วัดพร้อมกับยังมีพฤติกรรมเดิมๆกับชาวบ้าน จึงอยากให้ทางพระวินัยโมลี รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธรรมยุต) ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดถ้ำพระสีวลี ว่าทำไมไม่มีการให้นางสาวบี ออกจากวัด เพื่อที่จะได้ลดปัญหาที่เกิดขึ้น
ภาพ/ประสิทธิ์ วนะชกิจ
ข่าว/ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา