เส้นทาง “เขื่อนสิริกิติ์” เรียกได้ว่าเป็น “เขื่อนของแม่” เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลดอุทกภัย และ คนลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีน้ำกินน้ำใช้

Top News รายงาน เมื่อ “เขื่อนภูมิพล” ทำหน้าที่เก็บกักน้ำ เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนสองฝั่งลุ่มแม่น้ำปิง ไหลเรื่อยไปจนถึงลุ่มเจ้าพระยา ซึ่งแควต้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา คือแม่น้ำน่าน ที่มีความสำคัญรองลงจากแม่น้ำปิง และเพื่อให้ทุ่งเจ้าพระยา ได้ผลแก่การเกษตรอย่างเต็มที่ จึงจำเป็นต้องสร้างเขื่อนบนแม่น้ำน่าน เพื่อช่วยลดภัยน้ำท่วม และให้มีน้ำใช้ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอีก “เขื่อนสิริกิติ์” ที่เรียกได้ว่าเป็น “เขื่อนของแม่” จึงถือกำเนิดขึ้น หล่อเลี้ยงคน รวมทั้งชะลอการเกิดอุทกภัยได้

ข่าวที่น่าสนใจ

“เขื่อนภูมิพล” เขื่อนของพ่อ หล่อเลี้ยงคนไทยมากว่า 60 ปี

“เขื่อนภูมิพล” วันนี้เมื่อวันวาน รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินวางศิลาฤกษ์ -เปิดเขื่อน

มูลนิธิ ยังมีเรา สถานีข่าว Top News สานต่อความช่วยเหลือสู่สังคม ในกิจกรรม “ยังมีเรา ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม”

เขื่อนสิริกิติ์ ประวัติ

“เขื่อนสิริกิติ์” ชื่อเดิม คือ “เขื่อนผาซ่อม” หรือที่เรียกกันในชื่อท้องถิ่นว่า “เขื่อนท่าปลา” จัดเป็นเขื่อนดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่ใน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ก่อสร้างกั้นแม่น้ำน่านบริเวณเขาผาซ่อน ที่ไหลลงมาจาก อ.นาหมื่น จ.น่าน เริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2511 เดิมอยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายหลังได้ติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงาน จึงได้มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้รับผิดชอบดูแลต่อไป

การก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนตัวเขื่อนและองค์ประกอบ กับส่วนโรงไฟฟ้าและองค์ประกอบ มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 ชุด กำลังผลิตชุดละ 125,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิต 375,000 กิโลวัตต์ โดยปัจจุบัน มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 4 ชุด กำลังผลิตชุดละ 125,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิต 500,000 กิโลวัตต์

วันที่ 24 พ.ค. 2511 ได้รับพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขนานนามว่า “เขื่อนสิริกิติ์”
วันที่ 27 ก.พ. 2514 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ “เขื่อนสิริกิติ์”
วันที่ 4 มี.ค. 2520 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปิด “เขื่อนสิริกิติ์” และโรงไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ หลังจากงานก่อสร้างตัวเขื่อน และโรงไฟฟ้า เสร็จเรียบร้อยแล้ว กรมชลประทาน ได้มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รับผิดชอบในการควบคุมดูแลรักษา

เขื่อนสิริกิติ์ ประโยชน์

ประโยชน์หลัก ที่ได้รับจากโครงการนี้ คือการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำน่าน และร่วมกับเขื่อนภูมิพล บรรเทาอุทกภัยในทุ่งเจ้าพระยาให้ลดน้อยลง ทำการชลประทานในลุ่มน้ำน่านในฤดูฝนได้ 1,551,000 ไร่ ในฤดูแล้งในลุ่มน้ำน่านได้ 300,000 ไร่ และในทุ่งเจ้าพระยาได้อีก 2,500,000 ไร่ รวม 2,800,000 ไร่ เมื่อได้ขุดลอก และแต่งลำแม่น้ำน่านบางตอนแล้ว จะใช้เป็นเส้นทางคมนาคมจาก จ.นครสวรรค์ ถึงอุตรดิตถ์ได้ตลอดปี

นอกจากนั้น พื้นที่เหนือเขื่อนสิริกิติ์ เป็นแอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ เป็นแหล่งพันธุ์ปลา จึงถูกพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.อุตรดิตถ์ด้วย โดยภายในเขื่อนสิริกิติ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาทิ

เรือนรับรองพิเศษเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งเป็นเรือนรับรองของพระบรมวงศานุวงศ์ ที่เสด็จมาแปรพระราชฐาน อยู่บริเวณจุดสูงสุดของเขื่อน แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวชมเฉพาะภายนอกเท่านั้น
สวนสุมาลัย เป็นสวนที่เขื่อนสิริกิติ์จัดตั้งขึ้น เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวโรกาสที่พระองค์มีพระชนมพรรษา ครบ 50 พรรษา ภายในสวนมีประติมากรรมสู่แสงสว่างอันเป็นสัญลักษณ์ของสวนสุมาลัย
สะพานเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ เป็นสะพานแขวน ด้วยสายเคเบิลสวยงามทอดกลางผ่านเขื่อนสิริกิติ์ มีลักษณะที่สวยงามและโดดเด่น
อ่างเก็บน้ำสุริยัน-จันทรา: บริเวณตัวเขื่อนสิริกิติ์ ที่มีเกาะแก่ง โค้งเว้าที่สวยงามในตัวเขื่อน มีทิศทัศน์ที่สวยงาม สามารถชมทัศนียภาพโดยรอบจากสันเขื่อน การล่องแพ พายเรือคายัค ถีบจักรยานน้ำ หรือการล่องเรือชมทัศนียภาพของเขื่อนฯ เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลและภาพ : วิกิพีเดีย, egat.co.th

เขื่อนสิริกิติ์ ประโยชน์, เขื่อนของแม่, เขื่อนภูมิพล, เขื่อนสิริกิติ์ ประวัติ, เขื่อนสิริกิติ์, เขื่อนสิริกิติ์ ชื่อเดิม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“เขื่อนสิริกิติ์” เขื่อนของแม่ 50 ปี หล่อเลี้ยงชีวี คนลุ่มเจ้าพระยา ชื่อเดิมมีถึง 2 ชื่อ