ระทึก เพลิงไหม้โรงงานรีไซเคิล สมุทรสาคร ลุกลามเสียหายกว่าครึ่ง เร่งอพยพประชาชนด้านหลังโรงงาน

เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรีไซเคิล จ.สมุทรสาคร ลุกลามเสียหายกว่าครึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่เร่งระดมน้ำเข้าสงัด ยังไม่มีท่าทีเบาลง ประสานข้างเคียงช่วยเหลือ 3 ชั่วโมงผ่านไปยังคุมเพลิงไม่ได้ เร่งอพยพประชาชนหลังโรงงานออกไปยังที่ปลอดภัย

ระทึก เพลิงไหม้โรงงานรีไซเคิล สมุทรสาคร ลุกลามเสียหายกว่าครึ่ง ล่าสุดยังคุมเพลิงไม่ได้ เร่งอพยพปชช.ด้านหลังโรงงาน – Top News รายงาน 

เพลิงไหม้โรงงานรีไซเคิล

 

วันที่ 5 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 23.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายกเทศมนตรีตำบลบางหญ้าแพรก เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกจากวัสดุรีไซเคิล พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งภายในมีบริษัทตั้งอยู่ 2 บริษัท คือ บริษัท ซีโนไทย กรุ๊ป จำกัด (สาขาที่ 1) และ บริษัท ซีโนไทย มารีน โปรดักส์ จำกัด โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในอาคารเปิดโล่งพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ที่ใช้เก็บกองวัสดุรีไซเคิล ประเภทถุงปุ๋ย ถุงพาสติก และยางรถยนต์ จำนวนมาก

กลุ่มควันและเปลวไฟจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ลอยสูงจนเห็นได้ชัดจากระยะไกล เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก และพื้นที่ใกล้เคียง นำรถน้ำดับเพลิงประมาณ 20 คัน เข้ามาช่วยสกัดเปลวเพลิงที่กำลังโหมลุกลาม ซึ่งการทำงานในครั้งนี้ประสบปัญหาแหล่งน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงไม่มีให้นำมาใช้ ประกอบกับความร้อนจากเปลวเพลิงที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน เจ้าหน้าที่ต้องสลับกันเข้าไปฉีดน้ำดับเพลิง เนื่องจากความร้อนสะสม รวมทั้งต้องคอยฉีดน้ำที่ตัวนักดับเพลิงและรถดับเพลิงสลับไปมาอีกด้วย  ใกล้ๆ กับจุดที่เกิดเพลิงไหม้เป็นอาคารขนาดใหญ่อีกหนึ่งหลัง คาดว่าจะใช้เป็นอาคารผลิตเม็ดพลาสติกจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งมีพนักงานกำลังช่วยขนย้ายสิ่งของจากภายอาคารดังกล่าวออกมาด้านนอก เพื่อป้องกันหากเพลิงลุกลามมายังอาคารหลังนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ปรับแผนด้วยการดีเลย์น้ำจากภายนอกโรงงาน และส่งต่อเข้ามาเป็นทอดๆ เพื่อไม่ให้รถดับเพลิงต้องเสียเวลาขับออกไปเติมน้ำ รวมทั้งยังแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงส่วนหนึ่ง ไปฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกลามออกไปโรงงาน ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนตั้งอยู่ประมาณ 30 หลังคาเรือน

จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ทราบเพียงว่าได้เกิดไฟไหม้กองถุงปุ๋ยที่เก็บไว้ในอาคาร ก่อนที่จะลุกลามต่อเนื่องจนกลายเป็นเพลิงไหม้ใหญ่

เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 6 ก.ย.2567 ผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง เพลิงยังคงลุกไหม้อย่างรุนแรง จากการตรวจสอบพื้นที่ภายในโรงงาน พบว่า เพลิงลุกไหม้ โกดังล็อกที่ 2 และล็อกที่ 3 สำหรับโกดังล็อกที่ 2 เป็นที่เก็บวัสดุจำพวกเม็ดพลาสติก ส่วนล็อกที่ 3 ซึ่งอยู่ด้านใน เป็นกองยางรถยนต์จำนวนมาก

นอกจากนี้ยังพบว่า เพลิงที่ลุกไหม้มีทีท่าลุกลามยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ด้านหลังโรงงาน เนื่องจากแนวกำแพงโรงงานได้พังเสียหายจากความร้อนของเปลวเพลิง และมีเพียงแค่คลองเล็กๆ ที่เป็นกันชนระหว่างเปลวเพลิงกับบ้านเรือนประชาชนเท่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพ ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ด้านหลังโรงงานออกไปยังที่ปลอดภัย

เบื้องต้นแสงเพลิงยังไม่มีทีท่าจะลดลง ยังคงระดมรถน้ำดับเพลิจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้าสนับสนุนที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอุปสรรคในการดับเพลิงคือ มีลมแรง และแหล่งน้ำธรรมชาติมีไม่เพียงพอ อีกทั้งวัสดุในโรงงานติดไฟง่าย

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทราบว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้น่าจะกินเวลาต่อเนื่องไปจนถึงเช้าของอีกวัน เนื่องจากวัสดุที่ติดไฟนั้นเป็นพลาสติกและยางรถยนต์ ที่ถูกเก็บไว้เป็นจำนวนมากทั้งในและนอกอาคาร อย่างไรก็ตามทางเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก ได้ประสานขอรถโฟมดับเพลิงจากบริษัทเอกชนเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้จบลงอย่างเร็วที่สุด ส่วนสาเหตุที่แท้จริงและมูลค่าความเสียหาย ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานรับซื้อและผลิตเม็ดพลาสติก พื้นที่หมู่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร โดยเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้วแต่ไฟยังไม่ดับสนิท และอยู่ระหว่างระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยง

ล่าสุด เวลา 07.30 น. พบว่า เพลิงไม่ได้โหมลุกไหม้รุนแรงแล้ว คงเหลือแต่กองไฟบางส่วน ที่อาจจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะดับสนิท เนื่องจากภายในโรงงานมีวัตถุซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากการระดมฉีดน้ำบริเวณจุดที่ยังคงมีกองไฟคงเหลืออยู่ เจ้าหน้าที่ยังได้ใช้สายยางระบบสปริงเกอร์คอยหล่อเลี้ยงตรงจุดที่ เป็นความเสียหายที่เกิดจากเพลิงไหม้ อย่างต่อเนื่องเพราะแม้ไฟจะดับแล้วแต่ยังคงมีควันโพยพุ่งออกมาอยู่ตลอดเวลา และจากการประเมินพบว่าภายในโรงงานได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมดยกเว้นด้านหน้าซึ่งเป็นส่วนสำนักงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ลุค อิชิคาว่า" นักแสดงลูกครึ่ง ร้องปอท.ถูกใส่ร้ายผ่านโซเชียลฯ สร้างความเสื่อมเสีย วอนชาวเน็ตอย่าเชื่อพวกหิวแสง
แน่นสำนักพม.ขอนแก่น "ผู้พิการ" แห่ต่ออายุ-ทำบัตรใหม่ รอรับเงินหมื่น
สุดเศร้า "สาวใหญ่" ร้องถูก "ผัวตำรวจ" ซ้อมอ่วม ซ้ำพยายามล่วงละเมิดลูกเลี้ยง ยันขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
บริษัทผลิตเพจเจอร์มรณะที่แท้เป็นของอิสราเอล
เลบานอนแบนเพจเจอร์และวอล์กกี้ทอล์กกี้บนเครื่องบิน
“ชนินทร์” จวก “เท่าพิภพ” หยุดเอาดีเข้าตัว ป้ายผู้อื่นเป็นโจรสลัด ชี้ปมร่างสุราก้าวหน้า ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง ต้องแสวงหาความร่วมมือ
คุณยายครูเบญเปิดใจทั้งน้ำตา หลังจากที่หลานสาวสอบติดพนักงานราชการแต่ชื่อหาย
"ซีอีโอ TSB" เปิดใจ พัฒนารถเมล์ก้าวสู่ปีที่ 3 พร้อมรับฟัง-นำข้อมูลปรับปรุงทุกจุด ประกาศชัด "รถเมล์คนไทยโตอย่างยั่งยืน"
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกิจกรรมประชุมสภากาแฟครั้งสุดท้าย ก่อนเกษียณอายุราชการ พร้อมปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำจำนวน 2 แสนตัว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมประมง
"พิพัฒน์-สุรศักดิ์" จับมือ สร้างโอกาส นศ.ทำงานปิดเทอม หมื่นอัตรา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น