แฉโครงการ "ทุ่นลอยน้ำกทม." พิรุธเพียบ ซื้อ 2 ชุด รวม 5 ล้าน แพงกว่าราคาท้องตลาดเกินครึ่ง หวั่นฮั้วเอกชน
ข่าวที่น่าสนใจ
สำหรับโครงการทุ่นลอยน้ำ พร้อมอุปกรณ์ยึดต่อ สำหรับเทียบเรือ จำนวน 2 ชุด ติดตั้งที่สวนลุมพินี และสวนเบญจกิติ จัดซื้อในปีงบประมาณ 2566 ตั้งราคากลาง 5,000,000 บาท โครงการนี้ใช้วิธีการคัดเลือก แทนที่จะต้องใช้วิธีการประมูลแบบอีบิดดิ้ง ตามระเบียบฯ กรมบัญชีกลาง โดยมีเอกชน 3 ราย ยื่นซองเสนอราคา คือ
- 1. บริษัท ไอ คอมเมิร์ซ จำกัด เสนอราคา 5,300,000 บาท
- 2. บริษัท วาล็อค สปอร์ต อีควิปเม้นท์ จำกัด เสนอราคา 4,998,000 บาท ต่ำกว่าราคากลาง 2,000 บาท
- 3. บริษัท ทรี สปอร์ตฟลอริ่ง จำกัด เสนอราคา 5,500,000 บาท
โดยบริษัท วาล็อค สปอร์ต อีควิปเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้ได้รับงานไป ซึ่งบริษัทวาล็อค เป็นบริษัทเดียวกับที่จัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพง
อีกประเด็นที่น่าสงสัยในเรื่องนี้คือ ในการสืบราคากลาง กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม. ก็ได้สืบราคากลางจาก 3 บริษัท ที่มาร่วมประมูลโครงการ แล้ว 3 บริษัทนี้ ก็มาประมูลแย่งงานกัน จึงเกิดคำถามว่า แบบนี้จะเกิดการฮั้วกันหรือไม่
ประเด็นที่น่าสงสัยต่อมาคือ การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การติดตั้งจำนวน 2 จุด มีขนาดกว้าง 20 เมตร ยาว 7.5 เมตร และทางกว้าง 2 เมตร ยาว 5 เมตร คำนวนคร่าวๆประมาณ 160 ตารางเมตร แต่จากการสืบราคาตลาดพบว่า ราคาทุ่นเทียบเรือรุ่นดังกล่าว อยู่ที่ตารางเมตรละ 5-7 พันบาท รวมแล้วมีมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาทเศษ แต่ กทม.จัดซื้อ 2.5 ล้านต่อจุด ดังนั้นทุ่นลอยน้ำ กทม.ทีมีราคาชุดละ 2.5 ล้าน จึงถือว่าแพงเกินครึ่ง
ทั้งนี้ กทม.เคยออกมาชี้แจงประเด็นสืบราคากลางว่า คณะกรรมการได้สืบค้นผ่านระบบ EGP ของกระทรวงการคลัง และสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต โดยขณะสืบราคา บริษัท วาล็อค สปอร์ต อีควิปเม้นท์ จำกัด มีวัตถุประสงค์ตามที่จดทะเบียน ในการขายทุ่นลอยน้ำ คณะกรรมการจึงได้สืบราคาจากผู้มีอาชีพขายสินค้านั้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของกรมบัญชีกลาง ส่วนสินค้ามาจากแหล่งใด และราคาต้นทุนสินค้าที่แท้จริงเป็นอย่างไร ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ และวิสัยของคณะกรรมการที่จะสืบค้นได้ ขณะเดียวกัน กทม.ไม่ได้ชี้แจงในประเด็นว่า ทำไมโครงการนี้ถึงใช้วิธีการคัดเลือก แทนที่จะต้องใช้วิธีการประมูลแบบอีบิดดิ้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง