“สรวงศ์” เข้ากระทรวงการท่องเที่ยวฯวันแรก จ่อฟื้นเราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง

“สรวงศ์” เข้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาวันแรก หวังอยู่นานกว่ารัฐมนตรีคนอื่น พร้อมอัดบิ๊กอีเวนต์วิ่งตามเป้ารายได้ 3.5 ล้านล้านบาท จ่อฟื้นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หรือคนละครึ่ง หวังส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ

“สรวงศ์” เข้ากระทรวงการท่องเที่ยวฯวันแรก จ่อฟื้นเราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

16 กันยายน 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เปิดเผยว่า ในวาระที่เข้ามารับตำแหน่งในกก. เพื่อสานงานต่อในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ

 

โดยมีเป้าหมายในการผลักดันรายได้รวมจากการท่องเที่ยวไทย อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท ตามเป้าหมายการทำงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งมั่นใจว่าสามารถไปถึงเป้าหมายที่ 3 ล้านล้านบาท และมั่นใจว่าตัวเลขจะทะลุเป้าหมายที่ 3 ล้านล้านบาทได้แน่นอน เนื่องจากในช่วงที่เหลือของปี 2567 นี้ ยังมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งอีเวนต์ใหญ่ต่างๆ อาทิ ลอยกระทง เคาท์ดาวน์ การแข่งขันกีฬาที่สำคัญระดับโลก โมโตจีพี อะเมซิ่งมาราธอน รวมถึงเราเข้าใกล้ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) แล้ว ซึ่งน่าจะสร้างเม็ดเงินการใช้จ่ายในภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น แต่เป้าหมายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่ตั้งไว้ 3.5 ล้านล้านบาทนั้น มองว่าอาจไปไม่ถึง แต่จะยังยึดเป้าหมายของรัฐบาลนายเศรษฐา เพื่อพยายามเดินหน้าไปให้ถึง 3.5 ล้านล้านบาทภายในปีนี้

 

 

“เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งในกระทรวงแล้ว ซึ่งเป็นกระทรวงที่เปลี่ยนรัฐมนตรีถึง 3 คนภายใน 1 ปี ก็หวังว่าจะอยู่ได้นานกว่าคนอื่น เพราะกระทรวงนี้ถือเป็นกระทรวงหลัก แม้มีขนาดเล็ก ข้าราชการไม่มาก แต่เรามีทั้ง ททท. และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กทท.) ซึ่งเป็นทีมงานที่ทำให้กก. เป็นกระทรวงใหญ่ที่พร้อมทำงาน โดยเป้าหมายผลงานชิ้นแรกภายในปีนี้ แบ่งทำงาน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.งานปกติรูทีน เดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ 2.การผลักดันงบประมาณของทั้งการท่องเที่ยว รวมถึงงานด้านกีฬาที่สร้างชื่อเสียงในระดับโลกด้วย และ 3.นโยบายต่างๆ ที่จะมีเพิ่มเติม ซึ่งส่วนนี้ต้องขอประชุมหารือร่วมกันหน่วยงานต่างๆ ก่อน” นายสรวงศ์ กล่าว

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า กลยุทธ์ในการเดินหน้าสร้างรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ ในช่วงเวลา 4 เดือน (กันยายน-ธันวาคม) ที่เหลือนี้ จะเร่งเดินหน้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพเข้ามาให้ได้มากที่สุด ได้แก่ นักท่องเที่ยวจีน รัสเซีย อินเดีย และมาเลเซีย​ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้เงินต่อหัวต่อทริปในระดับสูง รวมถึงจัดทำแผนงานในการดึงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติให้อยู่พำนักท่องเที่ยวในประเทศไทยนานขึ้น ผ่านการปรับแผนจัดอีเวนต์ที่มีขนาดใหญ่ กระจายตัว เพิ่มความถี่ รวมถึงความคล่องตัวในการเดินทางท่องเที่ยว และสร้างความสบายใจที่จะอยู่เที่ยวในไทยนานขึ้น ส่วนในเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้นนั้น มองว่ามีผลต่อการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้การเดินหน้าถึงเป้าหมายการสร้างรายได้ 3.5 ล้านล้านบาท มีความยากมากขึ้นด้วย

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายของรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในนั้น โดยมีการพัฒนาแห่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมา (แมนเมค) อาทิ สวนน้ำ สวนสนุก และสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์)​ ส่วนนี้มองว่าภาคเอกชนน่าจะเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่า ส่วนกระทรวงและรัฐบาลจะเป็นฝ่ายสนับสนุนในแง่ต่างๆ ตามอำนาจหน้าที่แทน เพราะการจะมาทำแข่งขันกับเอกชนคงไม่เหมาะสม โดยมองว่าผู้ประกอบการพร้อมลงทุนในเรื่องเหล่านี้แน่นอน แต่ต้องมีการหารือในเนื้อหาร่วมกันอีกครั้ง ว่าเราจะมีการช่วยเหลือในส่วนใดหรืออย่างไรได้บ้าง อาทิ มาตรการทางภาษี เพื่อดึงดูดการลงทุนทั้งในประเทศและต่างชาติด้วย

“สำหรับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือค่าเหยียบแผ่นดิน ที่ก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บนั้น จุดยืนส่วนตัวมองว่ามีความจำเป็นในการจัดเก็บเพื่อนำไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย จึงขอดูในรายละเอียดและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ว่าจะเก็บในรูปแบบใดเพื่อไม่ให้กระทบกับความรู้สึกของนักท่องเที่ยว”นายสรวงศ์ กล่าว

นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในด้านนโยบายเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) พร้อมสานต่อ โดยจะให้เอกชนมีส่วนร่วมมากว่านี้ สร้างความเชื่อมั่นให้เอกชนกล้าลงทุน พร้อมดึงอีเวนต์สำคัญเพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว อาทิ ผูกสัญญาแบบ 5-10 ปี ว่าทำในเรื่องอะไรบ้าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน อาทิ ดึงนักลงทุนมาทำโรงแรมในจังหวัดที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึงการขยายสนามบินตามนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งจะนำร่องในเมืองที่มีความพร้อมและเมื่อเห็นผลก็จะขยายไปยังเมืองอื่นๆ เพราะอยากให้เป็นฮับการบินเหมือนในหลายประเทศด้วย

นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขณะที่ปัญหาทัวร์ทุบตลาดและทัวร์ศูนย์เหรียญ ในฐานะที่เคยเป็นกรรมาธิการการท่องเที่ยวของรับสภานั้น พบว่าจำนวนลดลง แต่ความโหดรายมากขึ้น ในแง่ของความสูญเสียทรัพยากรและรายได้ของไทย เพราะแต่ละอย่างที่เข้ามาตอนนี้ไม่ใช่อะไรของคนไทย เริ่มตั้งแต่ลงเครื่องบินมาทั้งการอยู่การบิน ไม่ได้ใช่ของคนทั้งหมด ซึ่งจะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูให้ละเอียดอีกครั้ง เพื่อพยายามให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด

นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในด้านมาตรการส่งเสริมไทยเที่ยวไทยในระยะถัดไป กระทรวงมีไอเดียที่จะนำโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หรือคนละครึ่ง มาทำอีกครั้ง เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และยังเป็นแคมเปญที่ช่วยทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการทุกระดับตั้งแต่ร้านส้มตำ ร้านก๋วยเตี๋ยวขนาดเล็กก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการพิจารณากับหน่วยงานที่เกี่ยวครั้งอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สารวัตรมือปราบมาเฟียต่างชาติ นำทีมบุกรวบโอปป้าทรงเอ คาห้องพักกลางเมืองพัทยา
นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ปลื้มขอบคุณรัฐบาลหลังขยายเวลาขึ้นทะเบียนคนพิการ
กรมอุตุฯ เตือนพายุโซนร้อน "ซูลิก" เข้าไทย "เหนือ-อีสาน" เตรียมรับมือฝนตกหนัก
ตำรวจ บุกจับแก๊ง "เมียนมา" ข้ามช่องทางธรรมชาติ มาขี่รถพ่วงข้าง ขายไอติมยี่ห้อดัง
อ่วมหนัก ฝนถล่ม อ.ปง จ.พะเยา ทำต้นไม้หักโค่นทับเสาไฟฟ้า ทำไฟดับทั้งอำเภอ
ทัพฟ้าดีเดย์ "416 Back to School" ลุยฟื้นฟูโรงเรียนที่เชียงราย หลังเจอวิกฤตน้ำท่วม ให้กลับมาปกติเร็วที่สุด
"ยาย-น้า" เปิดใจทั้งน้ำตา ปมครูเบญสอบติดได้อันดับ 1 แต่ชื่อหาย ด้านคนในหมู่บ้าน เริ่มไม่มั่นใจระบบราชการ หวั่นเกิดซ้ำรอย
เตือน 54 จังหวัด รับมือฝนถล่มหนัก ระวังอันตราย "น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก" กทม.ก็ไม่รอด
"ผอ.กศน." โต้วุ่น ปัดเบี้ยวงาน-นอนกินเงินเดือน ยันทำงานตามปกติ ด้าน "อธิบดี กสร." ลั่นตั้งกก.สอบไม่เกิน 2 อาทิตย์ได้ข้อสรุปแน่
ไอเดียเก๋  "ผู้ใหญ่บ้าน" นำลูกทีมสวมชุดฮีโร่ "ย่างบาร์บีคิวขาย" บริการส่งถึงบ้าน ยอดขายปังวันละ 400 ไม้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น