ศาลสั่งจำคุก “อดีตนอภ.ท่าสองยาง” 1,269 ปี หลังพบหลักฐานแน่น ทุจริตน้ำท่วม

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งจำคุก "อดีต นอภ.ท่าสองยาง" พร้อมพวก 1,269 ปี 1,692 เดือน หลังพบหลักฐานมันแน่นทุจริตโครงการช่วยเหลือน้ำท่วมปี 2554

ศาลสั่งจำคุก “อดีตนอภ.ท่าสองยาง” 1,269 ปี หลังพบหลักฐานแน่น ทุจริตน้ำท่วม

 

 

18 ก.ย.67 มีรายงานจาก ห้องพระพุทธชินราช ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ว่า นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 6 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 6 พร้อม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด จาก 9 จังหวัด ประกอบด้วย จ.พิษณุโลก, นครสวรรค์พิจิตร, เพชรบูรณ์, ตาก, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, กำแพงเพชร และ จ.อุทัยธานี ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 และ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด

โดยมีคดีที่น่าใจสนใจ คือ คดีกรณีกล่าวหา นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก พร้อมพวกรวม 10 ราย ทุจริตโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เมื่อปี 2554 คดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาลงโทษ นายสมชาย พร้อมพวกอีก 5 ราย รวม 423 กระทง รวมลงโทษจำคุก 1,269 ปี 1,692 เดือน แต่ติดจริง 50 ปี ส่วนจำเลยที่เหลือโดนลงโทษจำคุกคนละ 100 ปี และ 1,000 ปีเช่นกัน รับคำพิพากษาสั่งจำคุกดังกล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2554 เกิดอุทกภัยจากพายุโซนร้อน “นกเตน” ทำให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.ท่าสองยาง ซึ่งต่อมามีการประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ส่งผลให้มีการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ซึ่ง นายสมชาย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 พร้อมพวก ได้ร่วมกันจัดหาผู้รับจ้างดำเนินโครงการ

โดยนายสมชาย สั่งการให้ผู้ปกครองท้องที่ทำการจดทะเบียนจัดตั้งร้านค้า แล้วนำมาเป็นคู่สัญญาในโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน อ.ท่าสองยาง แต่คณะกรรมการชุดต่างๆ ไม่ได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ เช่น บางโครงการไม่มีการควบคุมงาน บางโครงการไม่มีการตรวจการจ้าง อีกทั้งยังมีการเบิกจ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง โดยพบว่ามีการเบิกจ่ายเงินไม่เต็มตามจำนวนที่ได้รับจ้าง มีการเบิกจ่ายเงินให้กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้รับจ้าง และมีการเบิกจ่ายเงินโดยไม่มีการก่อสร้างจริง

 

ทั้งนี้ นายสมชาย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 พร้อมพวก ได้การกระทำในลักษณะเดียวกันถึง 3 ครั้ง โดยใช้งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรมา รวมกว่า 73 ล้านบาท โดยครั้งที่ 1 ใช้งบไป 7,999,600 บาท, ครั้งที่ 2 ใช้งบไป 7,999,600 บาท และครั้งที่ 3 ใช้งบไป 57,642,600 บาท รวม 423 โครงการ และในช่วงเวลาเกิดได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวทางการเงินหรือธุรกรรมทางการเงินของ นายสมชาย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมเป็นเงิน 26,595,780 บาท อย่างไรก็ตามคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด โดยจำเลยทั้งหมดมีสิทธิที่จะต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ลุค อิชิคาว่า" นักแสดงลูกครึ่ง ร้องปอท.ถูกใส่ร้ายผ่านโซเชียลฯ สร้างความเสื่อมเสีย วอนชาวเน็ตอย่าเชื่อพวกหิวแสง
แน่นสำนักพม.ขอนแก่น "ผู้พิการ" แห่ต่ออายุ-ทำบัตรใหม่ รอรับเงินหมื่น
สุดเศร้า "สาวใหญ่" ร้องถูก "ผัวตำรวจ" ซ้อมอ่วม ซ้ำพยายามล่วงละเมิดลูกเลี้ยง ยันขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
บริษัทผลิตเพจเจอร์มรณะที่แท้เป็นของอิสราเอล
เลบานอนแบนเพจเจอร์และวอล์กกี้ทอล์กกี้บนเครื่องบิน
“ชนินทร์” จวก “เท่าพิภพ” หยุดเอาดีเข้าตัว ป้ายผู้อื่นเป็นโจรสลัด ชี้ปมร่างสุราก้าวหน้า ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง ต้องแสวงหาความร่วมมือ
คุณยายครูเบญเปิดใจทั้งน้ำตา หลังจากที่หลานสาวสอบติดพนักงานราชการแต่ชื่อหาย
"ซีอีโอ TSB" เปิดใจ พัฒนารถเมล์ก้าวสู่ปีที่ 3 พร้อมรับฟัง-นำข้อมูลปรับปรุงทุกจุด ประกาศชัด "รถเมล์คนไทยโตอย่างยั่งยืน"
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกิจกรรมประชุมสภากาแฟครั้งสุดท้าย ก่อนเกษียณอายุราชการ พร้อมปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำจำนวน 2 แสนตัว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมประมง
"พิพัฒน์-สุรศักดิ์" จับมือ สร้างโอกาส นศ.ทำงานปิดเทอม หมื่นอัตรา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น