อิสราเอลจับกุมผู้ต้องสงสัยถูกอิหร่านว่าจ้าง ให้วางแผนลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงนายกฯเบนจามิน เนทันยาฮู
ตำรวจอิสราเอลระบุในแถลงการณ์ร่วมกับหน่วยชินเบต หน่วยข่าวกรองอิสราเอลเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า พลเมืองอิสราเอลคนหนึ่งถูกหน่วยข่าวกรองอิหร่านว่าจ้าง เพื่อทำงานลอบสังหารบุคคลสำคัญของอิสราเอล พลเมืองรายนี้ลักลอบเข้าอิหร่าน 2 ครั้ง และได้รับเงินว่าจ้างสำหรับการปฏิบัติภารกิจ โดยเป้าหมายการลอบสังหารได้แก่ นายกฯเนทันยาฮู, โยอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหม และโรเนน บาร์ หัวหน้าชินเบต
สื่ออิสราเอลระบุว่า ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า มอร์เดไค มามัน เกิดในปี 2495 มาจากเมืองอัชเคลอน และว่า เขาถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม ส่วนแถลงการณ์ร่วมของตำรวจและชินเบตระบุว่า เขาเป็นนักธุรกิจที่อาศัยอยู่ในตุรกีเป็นเวลานาน และมีสายสัมพันธ์กับชาวตุรกีและอิหร่าน ซึ่งแนะนำเขาให้รู้จักกับนักธุรกิจอิหร่านชื่อเอ็ดดี้ทางโทรศัพท์
รายงานระบุว่า มามัน เดินทางมาเยือนอิหร่านครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2567 เพื่อพบกับเอ็ดดี้ เนื่องจากเอ็ดดี้ไม่สามารถออกนอกอิหร่านได้ และเขายังได้พบกับบุคคลชื่อ ฮัจญะห์ ซึ่งแนะนำตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอิหร่าน เขาถูกขอให้ปฏิบัติภารกิจในอิสราเอล ทั้งการโอนเงิน,ขนถ่ายปืน,ถ่ายภาพสถานที่สาธารณะที่มีผู้คนพลุกพล่าน
ในเดือนสิงหาคม เขาถูกลักลอบพาตัวไปยังอิหร่านด้วยรถบรรทุก เพื่อเดินทางเยือนอีกครั้ง เขาได้พบกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิหร่านคนอื่นๆ และได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ ให้ดำเนินกิจกรรมก่อการร้ายให้กับอิหร่านบนแผ่นดินอิสราเอล รวมถึงการลอบสังหาร แถลงการณ์ระบุว่า การลอบสังหารนี้ ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพื่อแก้แค้นต่อการสังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของฮามาสในกรุงเตหะรานเมื่อเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ แถลงการณ์ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยยังได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่เพิ่มเติม รวมถึงการเกณฑ์สมาชิกหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลให้แปรพักตร์เป็นสายลับให้อิหร่าน โดยเขาเรียกเงินค่าจ้างล่วงหน้า 1 ล้านดอลลาร์ และได้รับเงิน 5 พันยูโรสำหรับการเข้าร่วมประชุมครั้งแรก และถูกบอกให้รอการติดต่อในอนาคต
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของชินเบตกล่าวว่า นี่เป็นกรณีที่ร้ายแรงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างมากของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิหร่าน ในการเกณฑ์พลเมืองอิสราเอลให้ทำกิจกรรมก่อการร้ายในอิสราเอล
หนังสือพิมพ์ ไทส์ ออฟ อิสราเอล รายงานโดยอ้างคำพูดของทนายความของมามันว่า เขาได้ตัดสินใจผิดพลาด และจะให้ความร่วมมือในการสอบสวน อีกทั้งมามันยังกล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่คุณจับกุมผม (ไม่อย่างนั้น) ผมไม่รู้ว่ามันจะไปลงเอยที่ไหน
