เดอะ วอลล์สตรีทเจอร์เนิล และ The Times of Israel รายงานวันนี้ (ศุกร์ที่ 20 กย.) ว่านายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐออกมาแสดงความวิตกหลังเกิดเหตุจุดระเบิดเพจเจอร์, วอล์กกี้ทอล์กกี้และอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในหลายพื้นที่ทั่วเลบานอนเมื่อวันอังคารและพุธที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายรวมทั้งสหรัฐเชื่อว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล ทั้งนี้ออสตินกล่าวว่าการโจมตีอุปกรณ์สื่อสารของสมาชิกฮิซบอลเลาะห์อาจเป็นการส่งสัญญานว่าอิสราเอลกำลังจะเริ่มปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่มีฐานปฎิบัติการอยู่ทางใต้ของเลบานอน
โดยก่อนหน้านี้อิสราเอลเคยเตือนให้ฮิซบอลเลาะห์หยุดโจมตีเข้ามาในพื้นที่ทางเหนือของอิสราเอล รวมทั้งขอให้ถอนกำลังออกจากบริเวณชายแดน ไม่เช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบ
รายงานเผยว่าออสตินและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้พยายามกดดันอิสราเอลให้ใช้วิธีการเจรจากับฮิซบอลเลาะห์ เพราะวิตกว่าหากอิสราเอลส่งกองทัพเข้าสู่ดินแดนเลบานอนจะทำให้การสู้รบลุกลามบานปลายจนควบคุมไม่อยุ่
ขณะที่นายรามี มอร์ทาดา เอกอัครราชทูตเลบานอนประจำสหราชอาณาจักรก็ให้สัมภาษณ์ The Times ในทำนองเดียวกัน พร้อมเตือนว่าถ้าอิสราเอลเปิดปฎิบัติการการรบภาคพื้นดินหรือทางอากาศในเลบานอน โอกาสที่การสู้รบจะกลายเป็นสงครามอย่างเต็มรูปแบบจะมีสูงมาก และขู่ว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง กองทัพเลบานอนจะไม่อยู่เฉยแน่ และว่าแม้เลบานอนอาจจะเสียหายหนัก แต่เลบานอนจะไม่ยอมพังฝ่ายเดียวแน่ๆ พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายให้ใช้ความพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามขึ้นจริง