วันที่ 22 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาบริเวณถนนสาย 210 หนองบัวลำภู ไปอำเภอนากลางว่า กรมทางหลวงได้ก่อสร้างสถานีตรวจสอบน้ำหนักรถ ซึ่งแทนที่จะไปสร้างฝั่งขวามือที่มีรถบรรทุกหนักวิ่งผ่านแต่กลับมาสร้างอยู่ฝั่งซ้ายมือ ซึ่งแทบจะไม่มีรถบรรทุกหนักวิ่งผ่านเลย จนถูกตั้งข้อสังเกตุจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า เป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณบ้านโนนสมบูรณ์ ตำบลนาคำไฮ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างกำลังมีการก่อสร้างติดกับมูลนิธิกรุณา บริเวณดังกล่าวได้มีป้ายของกรมทางหลวงสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะแจ้งว่า จะมีการก่อสร้างสถานีตรวจสอบน้ำหนักหนองบัวลำภู ทางหลวงหมายเลข 210 ตอนหนองบัวลำภู ถึงนาคำไฮ จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งมีเอกชนเป็นผู้รับจ้าง เริ่มสัญญาวันที่ 30 มกราคม 2564 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 24 มกราคม 2565 ระยะเวลาก่อสร้าง 360 วัน งบประมาณการก่อสร้าง 34,847,000 บาท (สามสิบสี่ล้านแปดแสนสี่หมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน) ซึ่งจุดก่อสร้างถ้าเดินทางมาอยู่ห่างจากตัวจังหวัดหนองบัวลำภู 10 กิโลเมตร ซึ่งมีการก่อสร้างอยู่ฝั่งซ้ายมือ โดยจะมุ่งหน้าไปอำเภอนากลางและอำเภอนาวัง และรอยต่อเขตจังหวัดเลยจะมีโรงโม่หินอยู่หลายโรง และรถบรรทุกพ่วงส่วนใหญ่จะไปซื้อหินและวิ่งกลับมาจากฝั่งด้านขวา ผ่านเข้าจังหวัดหนองบัวลำภู ตรงข้ามกับด่านตราชั่ง ซึ่งความเป็นจริงแล้วด้านซ้าย ฝั่งที่มีการก่อสร้างด่านตาชั่ง จะเป็นรถบรรทุกเปล่าๆที่ไม่ได้บรรทุกอะไรวิ่งผ่านมากกว่า และในภาพที่ปรากฏถนนฝั่งด้านขวาโดยเฉพาะในเขตอำเภอนากลาง ถนนได้พังเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อ และบางจุดได้มีลาดยางที่มีรอยกดทับและโผล่ขึ้นมาเป็นคลื่นๆ ทำให้รถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ที่สัญจรไปมาได้เกิดอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งการก่อสร้างดังกล่าวเกรงว่าจะมีการนำภาษีของพี่น้องประชาชน ไปใช้ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณการก่อสร้าง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายสอาด ประจันพล ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงหนองบัวลำภู ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ทางแขวงได้งบประมาณในการก่อสร้างตาชั่งตรวจน้ำหนักแบบถาวร ฝั่งซ้ายมือบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 51 ถึง 52 สาเหตุที่ทางแขวงฯ ต้องก่อสร้างบริเวณด้านซ้ายเพราะว่า เรามีพื้นที่สงวน และรองรับรถที่จะมาจอดรอเข้าชั่งน้ำหนักจะต้องใช้พื้นที่กว้างพอสมควร ซึ่งทางกรมทางหลวงได้จัดสรรงบประมาณมาให้เป็นเฟสแรก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะต้องมีพื้นที่การก่อสร้างบ้านพักของเจ้าหน้าที่ และพนักงานที่มาดูแลที่ด่าน เพราะหลังจากที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว เราก็จะมีเจ้าหน้าที่ ที่สามารถมาตั้งด่านดักรถน้ำหนักเกินได้ ส่วนฝั่งขวาก็จะได้ของบมาเพื่อจะสร้างด่านถาวรต่อไป ในส่วนที่มีพี่น้องประชาชนมีความกังวลว่า ทำไมไม่มาก่อสร้างด้านฝั่งขวามือ เพราะมีรถบรรทุกหนักวิ่งผ่านวันนึ่งเป็นจำนวนมาก ตนเองขอชี้แจงว่าหลังจากที่การก่อสร้างด่านชั่งน้ำหนักเสร็จแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่นำตาชั่งลอยข้ามฝั่งมาฝั่งขวา และจะมีการตรวจน้ำหนักเช่นกัน และถ้าเกิดกรมทางหลวงได้จัดสรรงบประมาณมาให้ก่อสร้างเฟสที่ 2 คงจะหาพื้นที่ในการก่อสร้างด้านฝั่งขวามือต่อไป
ภาพ/ข่าว วรรธนะ ทองดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.หนองบัวลำภู