เลบานอนนองเลือดดับเฉียด 500
เลบานอนนองเลือดสุดในรอบเกือบ 20 ปี อิสราเอลโจมตีปูพรมอย่างกว้างขวางและหนักหน่วง มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 500 คน อิสราเอลอ้างที่ตายจำนวนมากเป็นฮิซบอลเลาะห์ การถล่มยังไม่จบเตรียมปฏิบัติการขั้นต่อไป ขณะฮิซบอลเลาะห์ยังสู้ไม่ถอยยิงจรวดกว่า 200 ลูกโจมตีทางเหนือ สหรัฐฯส่งทหารจำนวนหนึ่งไปเสริมตะวันออกกลาง
กระทรวงสาธารณสุขเลบานอน แถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) เพิ่มเป็น 492 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก35ราย เป็นผู้หญิง 58 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1พัน645 คน หลังกองทัพอิสราเอลขยายวงการโจมตีพุ่งเป้าอาคารบ้านเรือน ที่อ้างว่ากลุ่ม ฮิซบอลเลาะห์ ใช้เก็บจรวด โดรน และมิสไซล์ไว้โจมตีอิสราเอล
สำนักข่าวทางการเลบานอน รายงานว่า การโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 6 นาฬิกา 30 นาทีตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาในไทย 10 นาฬิกา 30 นาที และเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดวันในเมือง ซีดอน ,มาร์จายูน , นาบาติเยห์ , ไทรี , เจสซีน และซาห์รานี ทางภาคใต้ และที่เขต ฮาห์เล บาลเบค เฮอร์เมล ในหุบเขาเบกา ฐานที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์
ช่วงเย็นวันเดียวกัน อาคารหลังหนึ่งในเขต บีร์ อัล อาเบด ชานกรุงเบรุต ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายลูก แหล่งข่าวความมั่นคงเลบานอน ระบุว่า เป็นการโจมตีพุ่งเป้าสังหาร อาลี คารากี ผู้บัญชาการระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ ไม่ชัดเจนว่าเขาถูกสังหารหรือไม่ แต่สื่อฮิซบอลเลาะห์ รายงานว่า คาราคีปลอดภัย
ถนนจากทางใต้มุ่งหน้ากรุงเบรุต รถติดยาวหลายกิโลเมตร ขณะผู้คนพยายามเดินทางออกจากพื้นที่เสี่ยง หลังจากได้รับข้อความทางโทรศัพท์ และประกาศเตือนทางวิทยุจากกองทัพอิสราเอล ให้ชาวเลบานอน อพยพออกจากอาคารและพื้นที่ที่ฮิซบอลเลาะห์เก็บซ่อนอาวุธไว้ทันที ไซอัด มาคารี รัฐมนตรีสื่อสารเลบานอน กล่าวว่า กระทรวงได้รับการเตือนเช่นกัน ให้อพยพออกจากอาคารในกรุงเบรุต แต่เขายืนยันว่าจะไม่ปฏิบัติตาม เพราะเชื่อว่าเป็นสงครามจิตวิทยา
พลเรือตรี แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล หรือ IDF แถลงในช่วงเย็นวันเดียวกันว่า ผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ และการเสียชีวิตส่วนหนึ่ง เกิดจาก “การระเบิดครั้งที่สอง” จากอาวุธที่เก็บซ่อนอยู่ ซึ่งเกิดระเบิดขึ้นเมื่ออาคารเป้าหมายถูกโจมตี โดยยังไม่ได้ให้ตัวเลขว่าเป็นฮิซบอลเลาะห์กี่คน ก่อนย้ำว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะฮิซบอลเลาะห์ ใช้บ้านประชาชนเก็บซ่อนอาวุธ พร้อมกับเผยภาพที่อ้างว่า เป็นจรวดพิสัยไกล ภายในบ้านหลังหนึ่งที่เลบานอน
โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวด้วยว่า IDF โจมตีทรัพย์สินของฮิซบอลเลาะห์ราว 1,300 จุด ทางใต้ของเลบานอน และหุบเขาเบกา เป้าหมายเหล่านั้นรวมถึง ขีปนาวุธนำวิถี ที่มีระยะทำการหลายร้อยกิโลเมตร และจรวดพิสัยกลางระยะทำการ 200 กิโลเมตร ที่ฮิซบอลเลาะห์นำไปติดตั้งกลางหมู่บ้าน และในบ้านคน มุ่งหมายใช้ยิงโจมตีพลเรือนอิสราเอล ปฏิบัติการครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด
เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะบุกภาคพื้นดิน ฮาการี กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลพร้อมเต็มพิกัด และจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็น เพื่อนำพลเมืองกลับเข้าบ้านโดยสวัสดิภาพ
แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงอิสราเอลคนหนึ่ง ยืนยันว่า ในเวลานี้ IDF มุ่งถล่มทางอากาศอย่างเดียว โดยมี 3 เป้าหมาย คือลดทอนความสามารถในการยิงจรวดและมิสไซล์โจมตีข้ามชายแดน ผลักดันนักรบฮิซบอลเลาะห์ออกไปจากชายแดน และทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่กองกำลัง “รัดวาน” หน่วยปฏิบัติการพิเศษของฮิซบอลเลาะห์ ใช้โจมตีชุมชนอิสราเอล
สอดคล้องกับ พลโท เฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการทหารอิสราเอล ที่กล่าวว่า IDF โจมตีพุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานที่ฮิซบอลเลาะห์สร้างมาตลอด 20 ปี ขณะกำลังเตรียมการในขั้นต่อไป ซึ่งเขาบอกว่าจะขยายความในภายหลัง
ฮิซบอลเลาะห์ไม่ได้แสดงความเห็นเรื่องที่อิสราเอลกล่าวหาว่าซ่อนอาวุธไว้ในบ้านคน ส่วนสำนักงานฝ่ายสื่อ ประกาศข่าวการเสียชีวิตของนักรบเพียงคนเดียวในช่วงเย็น ขณะส่งสัญญาณไม่ยอมถอย ด้วยการระดมยิงจรวดพุ่งเป้าฐานทัพอิสราเอลภาคเหนือ และศูนย์อุตสาหกรรมบริษัทผลิตอาวุธ ในเขต ซวูลุน (Zvulun) ทางเหนือของเมืองไฮฟา
เสียงไซเรนเตือนภัยดังขึ้นในเมืองไฮฟา และนิคมชาวยิวในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ ใกล้กับกรุงเทลอาวีฟ ขณะฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดรวม 210 ลูกโจมตี จรวดจำนวนหนึ่งตกลงในภูมิภาค โลเวอร์ กาลิลี อัปเปอร์ กาลิลี เมืองไฮฟา และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนในเขตยึดครองที่ราบสูงโกลัน บ้านหลังหนึ่งในโลเวอร์ กาลิลี ได้รับความเสียอย่างหนักจากจรวด หน่วยกู้ภัยอิสราเอลระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดอาวุธ 2 คน และอีกคนบาดเจ็บขณะรีบวิ่งเข้าที่หลบภัย
ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี พลตรี แพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า กองทัพสหรัฐฯกำลังส่งทหาร “จำนวนเล็กน้อย” ไปตะวันออกกลาง เสริมกองกำลังสหรัฐฯที่ประจำในภูมิภาคอยู่แล้ว ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน แต่ปฏิเสธเปิดเผยรายละเอียดเรื่องจำนวนทหาร เป็นทหารจากหน่วยใด และจะส่งไปที่ไหน
สหรัฐฯ มีทหารหลายพันนายประจำการตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วในตะวันอออกลางอยู่แล้ว และเสริมกำลังในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกและทะเลมากขึ้น นับตั้งแต่เกิดสงครามในฉนวนกาซา รวมถึง เรือพิฆาตหลายลำ กองเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น และเครื่องบินรบ
#บก.ข่าวทีวี
