(วันที่ 25 กันยายน 2567 ) ดร.ณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก เปิดเผยกับผู้ส่อข่าว ว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่าน รับโทรศัพท์แทบไหม้เนื่องจากสมาชิกคนพิการภาคตะวันออก ต่างโทรมาเล่าให้ว่า ตามโครงการเงินดิจิทัล หรือ เติมเงิน 10,000 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ กลุ่มเปราะบาง อย่างกลุ่มคนพิการได้รับเงินได้แล้ว บางคนก็โทรมาบอกว่าช่วย ขอบคุณรัฐบาลแทนที่ทำสัญญาไว้ โดยจะนำไปใช้หนี ค่าน้ำค่าไฟ ที่เหลือเก็บไว้ใช้เป็นทุน ขณะป่วยติดเตียงก็ได้รับเงินเช่นเดียวกันดีใจมากที่ได้เงินจากรัฐ สามารถช่วยต่อชีวิตลมหายใจ ขณะที่บางคนดีใจสุดขีด บอกว่า ทั้งชีวิตยังไม่เคยเจอเงินหมื่นเลย
ดร.ณรงค์ ยังกล่าอีกว่า ตนในนายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาลก่อนนะครับ ที่ได้ทำตามสัญญาว่าจะมอมเงินให้กับผู้พิการ ซึ่งเงินจำนวนนี้นับว่ามีความสำคัญต่อผู้พิการเป็นอย่างมาก หลายคนอาจจะนำไปซื้อยา หรือบางคนนำไปใช้ซื้อของอุปโภคบริโภคของใช้ส่วนตัว โดยจะเห็นได้ว่าเงินหนึ่งร้อยบาทของแต่ละตนนั้นอาจจะมีค่าไม่เท่ากัน บางคนกินข้าวได้มื้อเดียวบางคนซื้อของได้มากมายหลายอย่าง แต่เงินหนึ่งหมื่นบาทที่รัฐบาลให้ในวันนี้นั้นมีประโยช์มีและคุณค่าเป็นอย่างมากแก่ผู้พิการ เพราะผู้พิการนั้นอยู่ในสภาวะทีค่อนข้างลำบาก ในวันนี้กลุ่มผู้พิการเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ได้รับเงินหนึ่งหมื่นบาทจากรัฐบาล แต่ยังมีมีปัญหาอยู่นิดนึงในกลุ่มของผู้ที่บัตรผู้พิการหมดอายุ และกลุ่มที่ยังรับเบี้ยผู้พิการจาก อบต. จากทางเทศบาล กลุ่มเหล่านี้ยังไม่ได้รับเงินซึ่งก็คิดแล้วมีประมาณ 10% ของผู้พิการทั้งหมด
