บริวาร “บ้านป่า” ตามราวีนายกฯ บริวาร “บ้านจันทร์” ตามจองเวร “ลุงป้อม”

ขณะที่ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” เข้ายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จี้ให้ตรวจสอบการลาออกจากกรรมการบริษัท 20 แห่ง ของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี  โดย “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” งัดข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ระบุห้ามรัฐมนตรีรวมถึงนายกรัฐมนตรีถือหุ้นเกินร้อยละ 5 หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใด โดยการถือหุ้นร้อยละ 5 นั้นมีเงื่อนไขคือต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดการหุ้นส่วน และหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ 2543 หมายความว่าหากเกินร้อยละ 5 และอยากจะถืออยู่ก็จะต้องไปแจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. จี้ กกต. และ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบ ทั้งนี้ 1 ใน 20 บริษัทดังกล่าว รวม “สนามกอล์ฟอัลไพน์” โอนไปให้มารดา “พจมาน ดามาพงศ์” ไปแล้ว ทั้งนี้ “เรืองไกร” ทำหนังสือถึง กกต. ขอให้ตรวจสอบ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กรณีเสนอชื่อ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่

ขณะเดียวกันนักวิจารณ์การเมืองตัวยง “ไพศาล พืชมงคล” ร่วมวงผสมโรงด้วย  ออกมาชี้เป้าจุดตายรัฐบาลเพื่อไทย กรณีที่มีนักร้องนิรนาม ได้ร้องว่า การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 เพราะไม่ได้แถลงว่าจะนำรายได้จากไหนมาใช้จ่าย และขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญ เพิกถอน คณะรัฐมนตรีทั้ง 35 คนออกจากตำแหน่ง

สงครามถอนแค้นระหว่าง “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” นักร้องประจำบ้านป่ารอยต่อ ตามบดขยี้กล่องดวงใจนายใหญ่เพื่อไทย หวังหักขาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ขณะที่ “พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์” ตามจองเวร “ลุงป้อม” หวังปิดบัญชีแค้นแทนนาย  จัดหนักหวังให้หลุดพ้นตำแหน่ง สส. เอาคืนให้กับนายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า  สงครามถอนแค้นระหว่าง บริวารบ้านป่ารอยต่อ กับ บริวารบ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่มีทีท่าว่าจะสงบศึกลงแต่อย่างใด มีแต่จะปะทะเดือดมากขึ้นทุกวันๆ