“นายกฯ” กดปุ่ม 30 รักษาทุกที่ ขยายเป็น 46 จังหวัดเรียบร้อย ตั้งเป้าปีนี้ ครอบคลุมทั่วประเทศ

"นายกฯ" กดปุ่ม 30 รักษาทุกที่ ขยายเป็น 46 จังหวัดเรียบร้อย ตั้งเป้าปีนี้ ครอบคลุมทั่วประเทศ

Top news รายงาน วันที่ 27 ก.ย.67 เวลา 10.00 น. ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า กรุงเทพมหานคร และกล่าวปาฐกถา หัวข้อ “จาก 30 บาทรักษาทุกโรค สู่ 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า”

โดยมีนายภูมิธรรม เวชชัยรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายเผาภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม น.ส. ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษา นโยบายของนายกรัฐมนตรี ผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า ในนามของกรุงเทพมหานครดีใจที่รัฐบาลมาสานต่อนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้าในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะเรื่องสุขภาพเป็นหัวใจของการลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากหากประชาชน เจ็บป่วยก็ไม่สามารถทำงานหารายได้ได้ ก็จะเป็นวงจรให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ กทม.มีโรงพยาบาลชั้นดีจำนวนมาก แต่ก็มีประชากรแฝงถึง 10 ล้านคน ขณะที่ ปัญหาสาธารณสุขไม่ได้น้อยกว่าจังหวัดอื่น หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นโครงการนี้สำคัญมากๆ โดยมี 3 ปัจจัยหลักที่สำคัญ คือ 1. ใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมโยง 2. การเชื่อมโยงข้อมูลโรงพยาบาล และ 3. ระบบปฐมภูมิที่เข้มแข็ง อาทิ มีหน่วยสาธารณสุขนวัตกรรม ร้านขายยาที่ใกล้บ้าน ทำให้ประชาชนไม่ต้องตื่นมาตี 3 ตี 4 เพื่อไปรอคิวการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลใหญ่ นี่คือหัวใจของ 30 บาทซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพัฒนาร่วมกันอย่างเข้มแข็ง เป็นหัวใจที่จะสร้างความมั่นคง ความสะดวกและประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน นี่คือหัวใจพื้นฐาน ถ้าประชาชนมีสุขภาพดีจะช่วยกันในการพัฒนาประเทศต่อไป

ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่มีเป้าหมายยกระดับบริการสุขภาพภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้คนไทยได้รับบริการที่ดีครอบคลุมมีคุณภาพมีมาตรฐานที่ดีขึ้นการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 ระยะ โดยระยะแรกเดือนม.ค.2567 นำร่อง 4 จังหวัดระยะที่ 2 เดือนมี.ค.2567 เพิ่มเติม 8 จังหวัดและระยะที่ 3 เดือนพ.ค. 2567 เพิ่มเติมอีก 33 จังหวัดและวันนี้กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่ 46 ที่จะเริ่มนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดยกระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายที่จะขยายให้ครอบคลุมทุกจังหวัดภายในปีนี้เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยทั้งประเทศการคิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อช่วยให้ประชาชนในกรุงเทพฯไม่ว่าจะมีสิทธิ์บัตรทองที่จังหวัดใดเพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียวก็สามารถเข้าถึงการรับบริการสุขภาพได้ทั้งที่หน่วยบริการประจำตามเขตและหน่วยบริการระดับปฐมภูมิทุกแห่ง ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 19 แห่งศูนย์บริการสาธารณสุขสาขา 77 แห่งคลินิกชุมชนอีก 280 แห่ง รวมถึงสามารถเข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการนวัตกรรมปฐมภูมิที่มีตราสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่
สำหรับหน่วยบริการนวัตกรรมปฐมภูมิ ได้แก่ ร้านยาคุณภาพคลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรมอบอุ่น
คลินิกพยาบาลอบอุ่น เทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น
คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น

ด้านนายกฯ กล่าวว่า พูดถึง 30 บาทรักษาทุกโรคก็ทำให้เกิดภาพมากมาย ตนได้ยินนโยบายนี้มาตั้งแต่อายุประมาณ 8-9 ขวบและไม่ว่าจะไปที่ไหนไหนผ่านมาแล้วเป็นสิบๆปี ก็ยังมีคนขอบคุณและพูดถึงนโยบายนี้เสมอ ซึ่งดิฉันเองมีประสบการณ์ดีๆหลายอย่าง ขอยกตัวอย่างสั้นๆวันหนึ่งคุณพ่อตอนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้กลับมาที่บ้านทานข้าวเย็นกันปกติ คุณพ่อบอกว่าไปต่างจังหวัดมามีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาหาและเปิดเสื้อมีแผลยาวตั้งแต่ด้านบน ถึงช่วงท้อง และบอกว่าได้ผ่าตัดหัวใจมาด้วยบัตร 30 บาทซึ่งคุณพ่อเล่าด้วยความภาคภูมิใจอย่างมาก ซึ่งวันนั้นคุณพ่อเป็นหัวหน้ารัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เบื้องหลังการทำงานยังมีคนอื่นอีกมากมายที่ทำให้นโยบายนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ รวมถึงให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ 30 บาท ไม่ต้องล้มละลาย ไม่ต้องจ่ายเงินมากมาย กู้หนี้ยืมสินมาตั้งแต่ที่พรรคไทยเป็นรัฐบาลในวันนั้น จนมาถึงรัฐบาลเพื่อไทยในวันนี้ เรามีความภูมิใจอย่างมากกับนโยบายที่สร้างความภาคภูมิใจอย่างที่สุดให้กับเรา ฉะนั้นมาถึงวันนี้ถึงเวลาแล้วเราจะต่อยอด 30 บาทรักษาทุกโรคให้เป็น 30 บาทรักษาทุกที่

 

 

นายกฯ กล่าวต่อว่า เวลาผ่านไปมีนวัตกรรมต่างๆมากขึ้น เราได้เก็บตัวอย่างทั้งข้อดีและข้อเสียพร้อมที่จะปรับปรุง อย่างที่บอกผ่านมาแล้วตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ 23 ปีวันนี้ 30 บาทรักษาทุกที่มาถึงกรุงเทพฯ ต้องลองถามพี่น้องคนกรุงเทพฯ เวลาเจ็บป่วยไปหาหมอที่ไหนกันบ้าง เวลาเจ็บป่วยเอาแค่ตัวร้อน ปวดท้องบางทีต้องเสียเวลาทั้งวันไปรอในโรงพยาบาลรัฐใหญ่ๆ ถ้าพูดถึงบางคนที่มีทุนทรัพย์ไม่อยากไปรอทั้งวันก็ไปโรงพยาบาลเอกชนทั้งนี้ เรื่องสาธารณสุขสำคัญมาก คนที่มากรุงเทพฯไม่มีทางเลือก ไปที่ไหนก็ต้องไปโรงพยาบาลที่ต้องรอนาน บางทีไม่ได้รอ แค่ตัวเองคนเดียวญาติหรือคนที่พามาจะต้องเสียเวลาไปด้วยทั้งวัน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราเห็นและพร้อมที่จะแก้ไขในโรงพยาบาลส่งเสริมในจังหวัดอื่นๆที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ ให้มีสาธารณสุขที่ได้ปรับปรุง ไปถึงจุดที่ค่อนข้างมากไม่ต้องมีโรงพยาบาลใหญ่เป็นทางเลือกเท่านั้น แต่สามารถจะไปลงโรงพยาบาลที่ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลได้ตามต่างจังหวัดที่มีถึง 7,000 แห่งและมีโรงพยาบาลประจำชุมชนและอำเภอมากกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ

 

 

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ถือว่ากรุงเทพฯยังขาดแคลนในเรื่องของบริการสาธารณสุขระดับต้นและระดับกลางมากกว่าต่างจังหวัด ซึ่งตอนนี้กรุงเทพฯควรมีศูนย์บริการสาธารณสุข 500 แห่ง และโรงพยาบาลชุมชน 50 แห่ง หากเราป่วยขั้นพื้นฐานและสามารถเข้าในคลินิกหรือร้านขายยาควรที่จะได้การรักษาในแบบเดียวกัน นั่นคือการได้รับยาที่มีคุณภาพ เพื่อที่สามารถดูแลตัวเองและเฝ้าระวังระยะการป่วยที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาที่โรงพยาบาลใหญ่ และบุคลากรทางการแพทย์ก็ต้องทำงานหนักขึ้น เมื่อเวลาที่เราป่วยเล็กๆน้อยๆดูแลทั้งหมดเท่ากัน เพราะโรงพยาบาลใหญ่ๆเองเหมาะสำหรับโรคที่เป็นเฉพาะทางและโรคที่ร้ายแรงอย่างเช่นโรคมะเร็ง หัวใจ หรือไต ต่อไปนี้คนเจ็บป่วยเล็กน้อยในกรุงเทพฯสามารถไปร้านขายยาใกล้บ้าน คลินิกเวชกรรมใกล้บ้าน ทันตกรรมใกล้บ้าน รถโมบายตรวจเลือดที่บางครั้งอาจจะมีการเข้าไปถึงชุมชน และเวลาขอเบิกยาหมอสามารถออนไลน์ถามอาการได้ เพื่อให้ได้ยาที่มีคุณภาพกลับบ้านเช่นกัน 30 บาทรักษาทุกที่ให้บริการในทันที ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้การดำเนินงานตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา 30 บาทรักษาทุกที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากและมีผลงาน 1 ใน 4 ของผู้ป่วยเลือกใช้บริการที่คลินิกเอกชนใกล้บ้านแทนการมาโรงพยาบาล เพื่อลดความแออัดลดระยะเวลาการรอตรวจ ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ที่สำคัญลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาโรงพยาบาล โดยเฉลี่ย 160 บาทต่อครั้งลดระยะเวลาในการรอถึง 50% จากเฉลี่ย 2 ชั่วโมงเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อรักษาใกล้บ้านก็จะลดภาระการขาดงานของผู้ป่วยและญาติที่มาด้วยกันที่สำคัญพี่น้องประชาชนผู้เข้ารับบริการกว่า 98% พึงพอใจกับนโยบายนี้อย่างมาก 30 บาทรักษาทุกที่เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยตอนแรกเริ่มใน 4 จังหวัดนำร่องและขยายนโยบายครอบคลุมเพิ่มเติมไปอีก 41 จังหวัดรวมทั้งสิ้น 45 จังหวัดและวันเดียวกันนี้ จะเป็นอีกวันประวัติศาสตร์ทางด้านสาธารณสุขไทยที่ต้องบันทึกไว้ว่าเราทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐและรัฐบาลสภาวิชาชีพทางการแพทย์ หน่วยบริการภาคเอกชนและประชาชน ได้ร่วมมือกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทำให้กรุงเทพฯอยู่ในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่

 

 

 

“สุขภาพดีเริ่มที่ใกล้บ้านได้สำเร็จ ทำให้ 30 บาทรักษาทุกที่ ขยายเป็น 46 จังหวัดเรียบร้อย อยากขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยมั่นใจได้ว่าภายในปี 2567 รัฐบาลจะสามารถขยาย 30 บาทรักษาทุกที่ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกตารางนิ้วบนประเทศไทย เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น โดยมีรัฐบาลเป็นผู้ดูแลและขอย้ำอีกครั้ง สำหรับคนกรุงเทพฯ สามารถดูสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่และเข้าไปใช้บริการได้ทันที” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกฯเยี่ยมชมบูธเกี่ยวกับสุขภาพ ภายในงาน โดยนายกฯ เน้นย้ำขอให้ดูแลกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษในพื้นที่น้ำท่วม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คนร้ายลอบวางบึ้มรถบัสตำรวจตชด. พลขับบาดเจ็บ 2 นาย
อดีตรมว.กลาโหมขึ้นแท่นนายกฯคนใหม่ของญี่ปุ่น
สพฐ. เร่งสอบ ผอ.โรงเรียนในจ.กาญจนบุรี เบี้ยวเงินทุนนักเรียน ล่าสุดมอบทุนครบแล้ว พร้อมสืบข้อเท็จจริงต่อ
“ดร.ทันกวินท์” ยื่น ป.ป.ช. สอบสส.พรรคส้ม อ้างตำแหน่งกมธ.จัดงานสมัครสมาชิก
"แม่ค้าขายน้ำ" ปลื้มยอดขายพุ่งพรวด เงินหมื่นสะพัด หลังรัฐบาลแจกช่วยกลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการ
“ไพบูลย์” ยันไม่จริง “สันติ-วราเทพ” ย้ายซบเพื่อไทย
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจัดกิจกรรมวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน 2567
“รมช.สุชาติ” เผยข่าวดี เจรจา EPA ไทย-เกาหลีใต้ รอบ2 รุดหน้า เป้าสรุปผลในปี 2568
“สนธิญา” ร้องกกต. จี้ปชน.ถอนร่างแก้ไขรธน.ปมจริยธรรม ลั่นหากไม่หยุด เจอยื่นยุบพรรค
มอบทุนการศึกษา “มูลนิธิคุณพุ่ม”ประจำปีการศึกษา 2567

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น