“ลุงป้อม” อาจต้องแอดมิด ICU เลือดไหลทะลัก บริวารข้างกายไม่เหลือหรอ

ไล่ตั้งแต่ “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ สายแข็งพรรคเพื่อไทย บอดี้การ์ดนายข้าใครอย่าแตะ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า  เปิดเกมรุกหนักไล่บดขยี้ “ลุงป้อม” หวังเด็ดปีกให้หลุดตำแหน่ง สส. กล่าวหาว่าโดนประชุมสภาเป็นอาชีพ  อย่าลืมว่า “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” เปิดศึกกับใครแล้วตามกัดไม่ปล่อย หากจำกันได้ช่วง ช่วงนายใหญ่เพื่อไทย อยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” กล้าแอ่นอกรับกระสุนแทนนาย ออกมาท้ารบกับฝ่ายแค้นที่ตามราวีขย่ม ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ถึงขนาดประกาศรู้ด้วยว่าใครเป็น “ไอ้โม่ง” อยู่เบื้องหลัง

ขณะเดียวกันอดีตศิษย์เอก “ลุงป้อม” “ผู้กองธรรมนัส” พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ  ยกโขยงก๊วน 20 สส.ตีจาก “ลุงป้อม” ไปอยู่ใต้ชายคา “พรรคเพื่อไทย” แถมได้ดิบได้ดีฟาดเรียบ 3 เก้าอี้รัฐมนตรีไว้ในครอบครอง  ทั้งยังโดน “นายใหญ่เพื่อไทย” หลอกไว้โหวตเลือก “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี  แต่สุดท้ายโดนเตะโด่งไปนั่งตบยุงเป็นฝ่ายค้าน  ผสมโรงกับ “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง มือขวาทั้ง “ทักษิณ ชินวัตร” คุมกระทรวงกลาโหมเบ็ดเสร็จ  เตรียมเช็กบิลปิด “มูลนิธิอนุรักษ์บ้านป่ารอยต่อ 5 จังหวัด” หรือ บ้านป่ารอยต่อ ฐานที่มั่นทางการเมืองของ “ลุงป้อม” แหล่งกบดานของนักร้องตัวตึง “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ตามจองเวรล้มรัฐบาลเพื่อไทย จ้องหักขาเก้าอี้กล่องดวงใจ “นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า”

นอกจากนี้ยังเป็นผลพวงจากอาฟเตอร์ช็อกจากขุนพลข้างกาย “ลุงป้อม” “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรคสายเหยี่ยว ระเบิดศึกนิติสงครามฟ้องปิดปาก “หมาแก่” ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ นักเล่าข่าวขั้นเทพ  งัดคลิปเสียงคล้าย “ลุงป้อม” ออกมาแฉกลางรายการประจาน “ลุงป้อม” ให้เสียหน้า สะเทือน “พรรคพลังประชารัฐ” เข้าไปพัวพันเรื่องเงินทอน  มิหนำซ้ำยังมีเรื่องการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กราชการในกระทรวงมหาดไทย ในยุคที่ “ลุงป้อม” เคยเรืองอำนาจถึงขีดสุด  ทำให้ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ยัวะจัด ฟ้องปิดปากเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท จริงเท็จประการใดต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาล

ขณะที่ “ผู้กองธรรมนัส” เตรียมเปิดแชมเปญฉลองใหญ่ หาก “ลุงป้อม” กับ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ขับพ้น”พรรคพลังประชารัฐ” จะได้ไปสังกัดพรรคใหม่เสียที  ถึงขนาดเปรียบเทียบสถานการณ์ “พรรคพลังประชารัฐ” ขณะนี้ว่า  ไม่ใช่แค่ “แก้วร้าว” แต่คือ “แก้วแตก” ไปแล้วขนาดที่นั่งในรัฐสภายังแยกจากกันชัดเจน  ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างเดินกันไปเลยดีกว่า  ทั้งยังพูดว่า ที่แยกตัวออกมานั้นไม่ได้เกลียด ไม่ได้โกรธใคร เพียงแต่ “วิถีการเมือง” ต่างกัน  อย่ามาตอแย อย่ามาขู่เสียให้ยาก ใครเยอะมา ใครแรงมา “ผู้กองธรรม” ลั่น พร้อมสวนกลับเหมือนเดิมตามสไตล์