‘ตรีนุช’ เตรียมแผนเปิดเรียน On Site คาดได้ตัวเลขผู้ปกครองยินยอมเด็กฉีดสัปดาห์หน้า 

'ตรีนุช' วางแผนเปิดเรียนเทอม 2 คาดได้ตัวเลขผู้ปกครองยินยอมเด็กฉีดสัปดาห์หน้า 

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ที่ประชุมได้วางแผนมาตรการเปิดภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการวางแผนการเปิดภาคเรียนให้อยู่ภายใต้มาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพ พร้อมกับการวางแผนการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียนที่มีอายุ 12-17 ปีว่าจะมีแนวทางอย่างไรบ้าง โดยเบื้องต้นศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จะต้องเป็นเจ้าภาพหลัก ในการบูรณาการรวบรวมข้อมูลและชี้แจงทำความเข้าใจ ให้แก่ผู้ปกครองได้รับทราบถึงแนวทางการฉีดวัคซีน เพื่อประสานข้อมูลการฉีดวัคซีนร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด

 

นางสาวตรีนุช กล่าวว่า สำหรับข้อมูลนักเรียนที่ผู้ปกครองยินยอมให้เข้ารับวัคซีนคาดว่า จะรับทราบอย่างครบถ้วนภายในสัปดาห์หน้าว่ามีจำนวนเท่าไร และแม้ว่าจะมีการเปิดเรียนรูปแบบ Onsite แล้ว แต่หากผู้ปกครองยังกังวลที่จะให้บุตร หลานมาเรียนที่โรงเรียนก็สามารถให้เรียนที่บ้านผ่านรูปแบบการเรียนอื่นๆ ได้เช่นกัน ศธ.ไม่มีการบังคับให้เด็กฉีดวัคซีน หรือมาเรียนที่โรงเรียน โดยได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดทำแผนการเปิดภาคเรียนว่า จะวางแนวทางการเปิดเรียนในรูปแบบปกติอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กระดับปฐมวัยไปจนถึงประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ จะวางแนวทางดูแลเด็กกลุ่มนี้ให้ปลอดภัยอย่างไรเมื่อมีการเปิดเรียนตามปกติแล้ว

 

นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพของกลุ่มเด็กเล็กระดับปฐมวัยไปจนถึงประถมศึกษาปีที่ 1 นั้น ตนได้มอบหมายให้ นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ.และสพฐ.ไปประชุมร่วมกับแพทย์ด้านกุมารเวช เพื่อวางแผนเปิดเรียนอย่างปลอดภัยให้แก่เด็กกลุ่มนี้ เพราะขนาดของสถานศึกษามีความแตกต่างกัน มีตั้งแต่โรงเรียนขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก ดังนั้นการเปิดเรียนในรูปแบบปกติจะต้องเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการกับกลุ่มโรงเรียนขนาดไหนมากที่สุด เช่น โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลมีนักเรียนอยู่ 50 คนจะต้องวางมาตรการเปิดเรียนอย่างไรบ้าง เป็นต้น

 

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า การเปิดภาคเรียนที่ 2 ในรูปแบบปกติหรือ Onsite นั้นเราจะไม่ยึดพื้นที่สีแดงแล้ว แต่จะพิจารณาเปิดภาคเรียนลงไปในระดับชุมชน อำเภอ หรือตำบล โดยหากชุมชนไหนปลอดเชื้อเป็นพื้นที่สีเขียวก็จะให้โรงเรียนเปิดเรียนแบบ Onsite ตามปกติ เพื่อไม่ให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้ เพราะปิดเรียนมามากว่า 1 ภาคเรียนแล้ว ดังนั้นเมื่อสถานการณ์เอื้อให้เปิดเรียนตามปกติได้เราต้องทำ แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่ปลอดภัยสูงสุดด้วย ส่วนโครงการ  “โรงเรียน Sandbox Safety Zone in School” (SSS) นั้น ขณะนี้เฟสแรก ดำเนินการไปแล้ว ส่วนเฟสที่ 2 จะดำเนินการเอกชนประเภทโรงเรียนนานาชาติที่สลับการเรียนในรูปแบบประจำและไปกลับ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดเศร้า "นักเรียน ม.4" เรียนวิชาพละ  วิ่งได้ 200 เมตร หัวใจวายเสียชีวิต
"ณัฐวุฒิ" โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน
เปิด 40 รายชื่อ สรุปยอดผู้สมัคร ป.ป.ช. พบคนดังเพียบ
"ยายวัย 80 ปี" เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี
"ร้านเนื้อย่างดัง" โพสต์ตามหา "ลูกค้า" โอนเงินค่าอาหารเกิน 2 แสนบาท
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 10 เตือน ปชช.ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
ระทึก ! บุกยิงบ้านผู้ใหญ่ โบว์ คาดว่า การเมือง ท้องถิ่นเป็นเหตุ
‘บิ๊กต่าย’ เผยตร.ทำงานยังคงทำคดี ‘ดิไอคอน’ ตามที่ DSI ร้องขอ
ครูบาอริยชาติ เกจิภาคเหนือวัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย สร้างพระพุทธเมตตา จากหยกรัสเซียใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 10 ตัน
นายกฯ-สามี พา "น้องธิธาร" ลูกสาว วิ่งเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น