ขู่ลงถนน! จี้รัฐบาล คุ้ยคำสั่งลับ ใครเก็บ “สนธิ ลิ้มทองกุล”

ขู่ลงถนน! จี้รัฐบาล คุ้ยคำสั่งลับ ใครเก็บ "สนธิ ลิ้มทองกุล"

TOP News เกิดอะไรขึ้นที่ “บ้านพระอาทิตย์” ซึ่งในแวดวงการเมืองรู้กันดีว่าเป็นฐานบัญชาการของนักเล่าข่าวเซียนขั้นเทพกระบี่มือหนึ่งในยุทธจักรสื่อสารมวลชน  นั้นคือ “สนธิ ลิ้มทองกุล” อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาประกาศเตรียมตัวเคลื่อนไหวทางการเมือง  เขย่ารัฐบาลเพื่อไทย “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี หนาวสะท้านไปถึง “นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า” เพราะ จู่ ๆ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ประกาศกลางรายการ Sondhitalk ชื่อ 3 เงื่อนไขของ “สนธิ” ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 3 ประกาศว่า ในต้นปีหน้าจะทำกิจกรรม 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ยื่นหนังสือถึง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีให้ขุดคุ้ยและติดตามคดีคำสั่งลับใครเก็บ “สนธิ ลิ้มทองกุล” เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 ซึ่งยังควานหาตัวคนร้ายไม่ได้ มีแต่หมายจับซึ่งพอจะคาดเดาได้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเป็นใคร?

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เรื่องที่ 2 คือ จะไปยื่นหนังสือถึง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เหตุใดปล่อยให้แรงงานข้ามชาติ ประเทศเมียนมาเข้ามาเต็มเมือง  เข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายจำนวนมาก และขอให้ยืนยันว่านโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน สำหรับแรงงานไทยเท่านั้น ส่วนค่าแรงของแรงงานเมียนมาได้เท่าเดิม  พร้อมกับกระทุ้ง พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แกนนำพรรคภูมิใจไทยของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  เหตุใดปล่อยให้โรงเรียนเมียนมา ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการ ใช่หรือไม่ ? ถ้าได้รับอนุญาต เหตุใดโรงเรียนเมียนมา ถึงไม่ให้ร้องเพลงชาติไทย และ ทำไมต้องให้ร้องเพลงชาติเมียนมา

อย่างไรก็ตาม 3 เดือนแรก ปีหน้า “สนธิ ลิ้มทองกุล” จะยังไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง แต่จะรอประเมินรัฐบาลเพื่อไทยว่า ควรจะได้อยู่ต่อไปหรือไม่  โดยจะเก็บรวบรวมข้อมูลที่ รัฐบาลเพื่อไทยทำไม่ถูกต้อง หรือผิดจริยธรรม ตุนไว้เพื่อการเคลื่อนไหว  โดยเฉพาะ เรื่องที่ 1 จี้รัฐบาลเพื่อไทย คฟื้นคดีใครสั่งเก็บ “สนธิ ลิ้มทองกุล” และ เรื่องที่ 2 ปล่อยให้แรงงานข้ามชาติประเทศเมียนมา เข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายได้อย่างไร ? นี่คือการซ้อมเดิน พร้อมกับประกาศ ว่า ปลายทางเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่จะทิ้งไว้ให้สังคมไทย แต่การจัดการเดินนั้นจะเป็นการเดินครั้งสุดท้ายในชีวิตของผม

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ “สนธิ ลิ้มทองกุล” เคยเปิดเบื้องหลัง คำสั่งลับเก็บ “สนธิ” แต่โชคช่วยรอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์เพราะบารมี “หลวงตามหาบัว” ก่อนวันโดนเก็บ 7 วัน ศิษย์หลวงตามหาบัว โทรศัพท์มาตามตัว “สนธิ” ให้ไปพบ”หลวงตามหาบัว” ถึงกุฏิ ณ วัดป่าบ้านตาด  ท่านเรียกมาให้กราบบนตัก  จากนั้นได้ทำพิธีเป่าเสกเวทมนต์คาถา  พร้อมกับเคี้ยวหมากขยี้บนศรีษะ “สนธิ ลิ้มทองกุล” เป็นอันเสร็จพิธี  หลังจากนั้นพูดว่า “รอดตายแล้ว” ราวกับ “หลวงตามหาบัว” มีตาทิพย์ญาณวิเศษ อีก 7 วันต่อมา “สนธิ ลิ้มทองกุล” โดนจัดหนัก AKและอาก้า 200 นัด ตามถล่ม ซ้ำด้วย M79 จำนวน 3 ลูก กระสุนปลิวว่อนรถยนต์ส่วนตัวพรุนไปทั้งคัน

ขณะที่กระสุนยิงถล่มรถยนต์ส่วนตัวจนเป็นรูพรุนและกระสุนปลิวว่อนรอบตัว “สนธิ ลิ้มทองกุล” สวดภาวนาอยู่ตลอดเวลา / ถ้าชะตาถึงฆาตก็ขอให้ไปดี  หรือหากชะตายังไม่ถึงฆาตขอให้ได้มีชีวิตอยู่ทำประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อไป  ราว 5 นาทีเฉียดตาย! จากพายุกระสุน 200 นัดรถตู้ที่เป็นรถยนต์ส่วนตัวของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” พรุนไม่เหลือชิ้นดี  รถบอดี้การ์ดที่ขับตามมาหนีตายกระเจิง แต่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ไม่เป็นไร แค่ลูกกระสุนเฉียวหัวไปนิดเดียว เลือดท่วมหน้าก่อนจะพาตัวเองไปโรงพยาบาล ผ่าเศษกระสุนออก

ทั้งนี้ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ยังไขปริศนารอดตายปาฏิหาริย์? เพราะ เป็นคนปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิจ พอเจอเหตุการณ์เช่นนี้จึงมีสติ ทั้งยังไม่ถึงฆาต และอีกเหตุผลที่รอดตายหวุดหวิด  เพราะตัวเองปฏิบัติธรรม จึงยังอาจไม่ถึงคราวเคราะห์ พร้อมเฉลยว่า ในวันนั้น ห้อยพระเกจิวัดอะไร?

ระดับเกจิชื่อดังแห่งเมืองไทย 4 องค์นั้นคือ องค์ที่ 1 คือ หลวงปู่ทวดเนื้อหว่าน วัดช้างให้ , องค์ที่ 2 คือ ล็อกเกต “หลวงตามหาบัว” ที่ได้รับการปลุกเสกและให้กับมือเป็นการส่วนตัว ,  องค์ที่ 3 คือ “หลวงปู่ฝั้น อาจาโร” เป็นพระเถระในสายพระป่า  และ องค์ที่ 4 “หลวงปู่ญาท่าน” เป็นพระอุปัชฌาย์ของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” เคยไปอุปสมบท  ที่วัดป่าสามัคคีศิริพัฒนารา จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีหลวงปู่ญาท่าน บวชให้ นี่คือ 4 พระเกจิ ที่ห้อยคอในวันโดนลอบสังหาร

จับตาการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” อดีตแกนนำพันธมิตรฯที่เคยปลุกม็อบขับไล่รัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี มาแล้ว ด้วยการจัด “เมืองไทยรายสัปดาห์” กึ่งจัดรายการและกึ่งชุมนุมทางการเมืองปลุกกระแสคนเสื้อเหลือง “ม็อบมือตบต้านทักษิณ” เพราะเห็นว่า มีความไม่โปร่งใส มีผลประโยชน์ทับซ้อนเชิงนโยบายทุจริตคอร์รัปชั่น ในที่สุดเกิดการปฏิวัติรัฐประหารในปี 2549 นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

ดังนั้นหาก รัฐบาลเพื่อไทย นิ่งเฉยไม่ลากคอคนบงการสั่งเก็บ “สนธิ ลิ้มทองกุล” รัฐบาลเพื่อไทย “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี มีหนาวแน่! สะเทือนไปถึง “นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า” ที่เคยมีประสบการณ์ตรงถูก “สนธิ ลิ้มทองกุล” ตรวจสอบและปลุกม็อบชุมนุมขับไล่จนพ้นจากอำนาจด้วยการถูกปฏิวัติรัฐประหารและโดนคดีจนกลายเป็น “คนแดนไกล” กำลังจะกลับมาตามหลอกหลอนอีกครั้ง!

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปธน.สีลั่น”ไต้หวันเป็นของจีน” ระหว่างปราศรัยวันชาติ
ฝนถล่มหนัก "เชียงราย-สุโขทัย-พิษณุโลก" น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนปชช. พื้นที่การเกษตรเสียหายหลายพื้นที่
เปิดภาพสุดท้าย "กลุ่มนักเรียน" มาทัศนศึกษาที่อยุธยา ก่อนเกิดเหตุรถบัสไฟไหม้
หนีไปบวชเณรคิดว่าจะรอด บุกจับคาผ้าเหลืองกลางวัด บัญชีม้าแก๊งคอลฯ สร้างความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท
“อนุทิน-วราวุธ” ย้ำตรวจสอบเข้ม เหตุรถบัสไฟไหม้ สั่งผู้ว่าฯอุทัยธานี เข้าดูแลนักเรียน
"นายกฯ" รุดเยี่ยม "นร.-ครู" เหตุรถบัสไฟไหม้ พร้อมให้กำลังใจ ก่อนเตรียมรถส่งกลับอุทัยธานีทันที
"ชาดา" เผยเตรียมนำร่างผู้เสียชีวิต พิสูจน์อัตลักษณ์ เหตุไฟไหม้รถบัสนร. พร้อมเยียวยาจิตใจ-จัดงานศพอย่างสมเกียรติ
“บิ๊กป้อม” ไม่ขอรับเงินเดือนสส. ขอคืนทุกบาทตั้งแต่รับตำแหน่ง
"สมศักดิ์" เสียใจ เหตุรถบัสนร.ไฟไหม้  สั่งด่วน! ส่งทีม สธ.ลงพื้นที่ ย้ำดูแลจิตใจช่วยเยียวยาผู้ปกครอง
พลเมืองดี เล่านาที เห็นเหตุการณ์รถบัสไฟไหม้ ช่วยเด็กนร.บางรายรอดชีวิต สุดชุลมุน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น