อินโดนีเซียสั่งแบนแอปอีคอมเมิร์ชจีน “เทมู” หวั่น SME เจ๊งระนาว
ทางการอินโดนีเซียออกมาเปิดเผยว่า ได้สั่งการแบน เทมู แอปอีคอมเมิร์ชจีน เนื่องจากเกรงว่าแอปดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SME ของประเทศ
แอป เทมู เป็นตลาดออนไลน์ที่ดำเนินการโดย พีดีดี โฮลดิงส์ (PDD Holdings) เจ้าของ พินตัวตัว (Pinduoduo) ผู้บริการค้าปลีกออนไลน์ชื่อดังของจีน ซึ่งทางการอินโดนีเซียเฝ้าระวังการเข้ามาของเทมู ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อิซี่ คาริม อธิบดีกรมการค้าอินโดนีเซียกล่าวก่อนหน้านี้ว่า รูปแบบธุรกิจของเทมู ที่ขายผลิตภัณฑ์โดยตรงจากโรงงานถึงผู้บริโภค ขัดต่อกฎระเบียบการค้าของอินโดนีเซียที่กำหนดให้ต้องมีตัวกลางหรือผู้จัดจำหน่าย
ขณะที่ บูดี้ อารี เซติอาดี้ รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศของอินโดนีเซีย กล่าวเมื่อวันอังคารว่า การอนุญาตให้เทมูเข้าประเทศอินโดนีเซีย อาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SME และว่า โลกดิจิทัลควรส่งเสริมให้สังคมมีผลผลิตและกำไรมากขึ้น หาก SME ของเราจะถูกทำลาย ทางการก็จะแบน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงสหกรณ์และ SME กล่าวว่า เทมูพยายามยื่นหนังสือขออนุญาต เพื่อดำเนินการในอินโดนีเซียถึง 3 ครั้ง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 เทมูได้พยายามยื่นจดเครื่องหมายการค้า แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากมีธุรกิจที่ใช้ชื่อดังกล่าวอยู่แล้ว
เทมู ได้กลายเป็นประเด็นพูดถึง หลังจากที่บริษัทปรากฏตัวในงาน อี-คอมเมิร์ช เอ็กซ์โป ประจำปี ที่จัดขึ้นในวันที่ 24 และ 25 กันยายนที่กรุงจาการ์ตา ซึ่ง เทมู เปิดให้บริการราว 60 ประเทศทั่วโลก และได้เข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปีที่แล้ว โดยเริ่มจากฟิลิปปินส์ในเดือนสิงหาคม, มาเลเซียในเดือนกันยายน และได้ขยายกิจการมายังประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมของปีนี้
นอกจากเทมูแล้ว ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อินโดนีเซียยังได้สั่งห้ามการขายสินค้าใน ติ๊กต็อก ช็อป (TikTok Shop) โดยอ้างถึงความจำเป็นในการปกป้องผู้ค้ารายย่อยและข้อมูลผู้ใช้ แต่ติ๊กต็อก ยักษ์ใหญ่แอปโซเชียล ก็ไม่ยอมแพ้ บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 75 ใน โทโคพีเดีย (Tokopedia) ผู้เล่นอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของอินโดนีเซียในเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นการกลับเข้าสู่ตลาดอินโดนีเซียอีกครั้ง