“แม่สาย” อ่วมหนัก หลังจมอยู่ใต้โคลนนาน 20 วัน เผยเมืองยังอยู่ในขั้นวิกฤต อาจใช้เวลาฟื้นฟูนานถึง 2 ปี

ซึ่งทางหน่วยงานภาครัฐ กำลังเร่งลอกท่อประปาให้น้ำกลับมาใช้ได้ตามเดิม มิเช่นนั้น ชาวบ้านก็จะไม่มีน้ำทำความสะอาด หรือใช้ประโยชน์ได้  นอกจากนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงต่อไปคือ เรื่องโรงครัว ซึ่งหลายหน่วยงาน และจิตอาสาที่มาตั้งโรงครัวอยู่ทั้งใน และนอกพื้นที่ เริ่มจะทยอยปิดตัวลงในช่วงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งทุกวันนี้ ข้าวกล่องขาดแคลนอยู่แล้ว หากขาดโรงครัวของจิตอาสาไป ก็จะเข้าขั้นวิกฤติอีกครั้ง ในเรื่องอาหารการกิน จึงได้ทำเรื่องขอโรงครัวกับทางนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความจำเป็นในการผลิตข้าวกล่องให้ได้วันละ 2 หมื่นกล่อง ใน 3 มื้อ และจัดการบริหารนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย

นอกจากน้ำ และดินโคลนที่ทับถมบ้านเรือนประชาชนแล้ว ยังมีสิ่งอื่นที่น่ากลัวตามมาก็คือ “ขยะ” จำนวนมหาศาล ที่มาจากทรัพย์สินของชาวบ้านที่พัง หรือเสียหายจมอยู่ใต้ดินโคลน และสิ่งของที่เป็นปฏิกูล เช่น ของเสียต่างๆ อุจจาระ ปัสสาวะ ข้าวกล่อง ถุงอาหาร เป็นต้น ซึ่งขยะเหล่านี้ เมื่ออยู่ในน้ำนานๆ หรือ ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกสุขลักษณะ อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขอนามัยของชาวบ้าน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ซึ่งในเรื่องนี้ นายชัยยนต์ ได้ประสานไปยังหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เพื่อจัดพื้นที่นำทิ้งขยะ และดินโคลนไปทิ้งทั้งหมดมี 14 จุด ทั่วตัวอำเภอแม่สาย จากข้อมูลที่มีตอนนี้ มีขยะประมาณ 2 ล้านกิโลกรัม ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำขยะ และดินโคลนกระจายไปยังตามจุดที่กำหนดไว้ และมีแนวโน้ม คาดว่าจะไม่พอ จึงได้วางแผนเตรียมขยายหลุม หรือพื้นที่ให้มีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น โดยการก่อผนังดินให้สูงขึ้นจะได้มีพื้นที่เก็บขยะ ก่อนนำไปเผาทำลายทิ้ง