ตร.ตามจับหนุ่มใหญ่ติดแบล็คลิสต์ สวมเลขบัตรปชช.คนอื่น ทำบัตรเครดิต หนีหนี้กว่าครึ่งล้าน

ตร.ตามจับหนุ่มใหญ่ติดแบล็คลิสต์ สวมเลขบัตรปชช.คนอื่น ทำบัตรเครดิต หนีหนี้กว่าครึ่งล้าน

วันนี้ ( 5 ต.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ3 กองบังคับการกองปราบปราม
ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ร่วมกันจับกุม นายภัทรวรรธน์ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 1042/2566 ลง 14 พฤศจิกายน 2566 ฐาน “ฉ้อโกง, ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม” โดยจับกุมได้ บริเวณแยกไฟแดงในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เนื่องจากผู้ต้องหาได้ปลอมแปลงเอกสาร ในการทำบัตรเครดิต โดยปลอมเลขบัตรประชาชนเพื่อหลบเลี่ยงการเช็คข้อมูลเครดิตบูโร และติดหนี้บัตรเครดิต ประมาณ 600,000 บาท ผู้เสียหายจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อประมาณปี 2559 ผู้ต้องหาซึ่งประกอบอาชีพเป็นผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่ง มีเงินเดือนประมาณหนึ่งแสนบาท อยากยื่นทำบัตรเครดิต แต่เนื่องจากรู้ตัวว่า เครดิตบูโรไม่ดี เนื่องจากมีประวัติติดแบล็กลิสต์ จึงได้ยื่นเอกสารเพื่อทำบัตรเครดิต โดยแอบอ้างเลขบัตรประชาชนคนอื่น จนได้บัตรเครดิตมาใช้ ต่อมาผู้ต้องหาติดหนี้พนันออนไลน์ หมุนเงินไม่ทันและไม่สามารถจ่ายเงินชำระหนี้บัตรได้ ธนาคารจึงทำการตรวจสอบ พบว่า บัตรเครดิตดังกล่าวถูกสวมเลขบัตรประชาชน ซึ่งถือว่ามีการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นบุคคลอื่น

 

 

หลังได้รับแจ้งประสานข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวน และตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาทำงานอยู่ในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานพื้นที่ สภ.เมืองสุรินทร์ลงพื้นที่ตรวจสอบ และจับกุม จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อหา โดยแจ้งว่า ผู้ต้องหาได้ยื่นทำบัตรเครดิตโดยแจ้งเลขบัตรประชาชนบุคคลอื่นจริง เพื่อเอามาใช้จ่ายตามปกติ แต่ขณะที่ผ่อนจ่าย ชำระหนี้บัตรฯ ผู้ต้องหาได้ไปค้ำประกันให้เพื่อน จนไม่สามารถติดตามและต้องรับผิดชอบในการชำระหนี้ เป็นเหตุให้หมุนเงินไม่ทัน ประกอบกับติดพนันออนไลน์ เจ้าหน้าที่จึงนำส่ง พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

'ธนินท์' นำผู้บริหาร-พนักงานทุกกลุ่มธุรกิจในเครือซีพีทั่วโลก ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหว ด้านซีอีโอศุภชัย เดินหน้าตรวจสอบความปลอดภัย สร้างความมั่นใจ ส่ง 'ซีพีอาสา ร้อยเรียงความดี' ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งไทย-เมียนมาต่อเนื่อง
สหรัฐฯช่วยเมียนมา 67 ล้านแต่ไร้ทีมกู้ภัย
“จุลพันธ์” เผยกรมบัญชีกลาง เพิ่มงบให้ปภ. ช่วยเหตุแผ่นดินไหว 200 ล้านบาท ขอเทียบเคียงเยียวยาเหตุสึนามิ-น้ำท่วม
"เลขาธิการกปส." ร่วมให้กำลังใจ 2 ครอบครัวผู้สูญเสีย เหตุตึกสตง.ถล่ม พร้อมจ่ายเงินเยียวยา 2.7 ล้าน
“อนุทิน” รับลูกนายกฯ สั่งปภ.ทำแผนเผชิญภัยพิบัติทุกรูปแบบ ในกรอบเวลา 30 วัน
เครือซีพี พร้อมกลับเข้าสู่โหมดการทำงานปกติ หลังอาคารสำนักงานผ่านการตรวจสอบโดยวิศวกรอิสระ ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการผลกระทบจากแผ่นดินไหว
เคียงข้างทุกวิกฤต! ซีพีเอฟ ร่วมร้อยเรียงความดี ส่งความห่วงใยผ่านอาหาร-สิ่งของจำเป็น หนุนภารกิจค้นหาต่อเนื่อง
"อธิบดี DSI" ถกด่วน เร่งสอบปม "ตึก สตง." ถล่ม หากพบความผิด รับเป็นคดีพิเศษทันที
"สรรเพชญ" ร่วมทีมแพทย์ วิศวกร ตรวจโครงสร้างอาคาร เพิ่มมั่นใจ รพ.สงขลา ปลอดภัย
โปรดแต่งตั้ง "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดญาณเวศกวัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น