“ธนาธร” ร่วมรำลึก 48 ปี 6 ตุลา ลั่นอยากเห็นประเทศดีกว่านี้ โยนบาปวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล เป็นศูนย์กลางพยุงเศรษฐกิจ การเมืองไทย

“ธนาธร” ร่วมรำลึก 48 ปี 6 ตุลาฯ 19 ชี้สังคมไทยมีวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลเป็นศูนย์กลางพยุงระบบเศรษฐกิจ-การเมืองแบบจารีต ยกการชุมนุม 63-64-เลือกตั้ง 66 ชี้สังคมไทยขยายเพดานความคิดก้าวหน้าที่สุดในรอบ 60 ปี พร้อมปลุกพลังร่วมสร้างสังคมไทยที่ดีกว่านี้

“ธนาธร” ร่วมรำลึก 48 ปี 6 ตุลา ลั่นอยากเห็นประเทศดีกว่านี้ โยนบาปวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล เป็นศูนย์กลางพยุงเศรษฐกิจ การเมืองไทย – Top News รายงาน

ธนาธร

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมรับเชิญเป็นหนึ่งในผู้กล่าวรำลึกและแสดงความอาลัยต่อวีรชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 48 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

ธนาธรเริ่มต้นกล่าวรำลึก โดยท้าวความถึง 3 เหตุการณ์สำคัญในสังคมไทย เริ่มต้นด้วยเหตุการณ์ “ถังแดง” โดยระบุว่า เมื่อหลายปีที่แล้วได้มีโอกาสไปเยือนอุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง จ.พัทลุง เป็นครั้งแรกที่ได้ฟังเรื่องราวความโหดร้ายจากผู้มีประสบการณ์ตรงเป็นครั้งแรก จากที่เคยแต่ศึกษาจากหนังสือประวัติศาสตร์ มันคือเหตุการณ์ที่มีการจับกุมคนที่ต้องสงสัยว่า เป็นผู้สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) มาสอบสวน ทารุณ และทำร้ายร่างกาย ก่อนจับยัดลงถังน้ำมันแล้วจุดไฟเผาทำลายหลักฐาน หลายคนตายจากการถูกเผาทั้งเป็นหรือซ้อมจนเสียชีวิต ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุกาณ์ดังกล่าวมีถึง 3,000 คน ปัจจุบันครอบครัวผู้สูญเสียยังไม่ได้รับการเยียวยา มีเพียงอนุสาวรีย์ที่ประชาชนก่อสร้างกันเองเพื่อเตือนความจำให้ผู้พบเห็น ประวัติศาสตร์ถังแดงไม่เคยถูกบรรจุในเรื่องเล่าหลักของชาติ ไม่มีการดำเนินคดีทหารที่ก่อเหตุ และยังไม่มีประชาชนผู้สูญเสียได้รับการเยียวยาจากรัฐแม้แต่คนเดียว

เหตุการณ์ที่สอง คือ กรณีข่าวของ ศิริวัฒน์ ใจดี อดีตพลทหารสังกัดกรมสารวัตรทหารเรือ ที่เสียชีวิตในค่ายทหารตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 แต่เพิ่งปรากฏเป็นข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน ภายหลังจากเพื่อนในค่ายมาบอกกับญาติภายหลังว่า ศิริวัฒน์เสียชีวิตจากการถูกฝึกหนัก พอมีท่าทีไม่ไหวก็ถูกครูฝึกเตะขาและซี่โครงแล้วตบหน้าซ้ำ แล้วยังให้เพื่อนพลทหารอุ้มไปตากแดดหน้าเสาธงโดยไม่มีการปฐมพยาบาล จนในช่วงเย็นของวันนั้นเพื่อนพบว่า ศิริวัฒน์มีอาการชักจึงรีบพาตัวส่งโรงพยาบาล แต่ศิริวัฒน์เสียชีวิตระหว่างทาง

ข่าวที่น่าสนใจ

ธนาธร กล่าวต่อไปถึงเหตุการณ์ที่สาม คือกรณีตากใบในปี 2547 ที่เริ่มต้นจากการชุมนุมโดยสงบของประชาชนนับพันคนที่ประท้วงกรณี ชรบ. 8 คน ถูกจับกุมข้อหาส่งปืนให้ผู้ก่อความไม่สงบ แต่กองทัพในวันนั้นตัดสินใจสลายการชุมนุม มีผู้เสียชีวิตทันที 7 คน โดย 5 ใน 7 รายถูกยิงที่ศีรษะ ผู้ชุมนุมที่เหลือนับพันคนถูกจับกุมขึ้นรถบรรทุกโดยให้นอนทับกันไปเป็นชั้นบนรถเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง เมื่อถึงค่ายมีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 78 ราย ต่อมาศาลชี้ว่า ความตายเกิดจากการขาดอากาศหายใจและเกิดขึ้นระหว่างอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่รัฐ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีภาคประชาชนเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่าให้มีการเอาคนผิดมาลงโทษแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใด จนใกล้จะหมดอายุความ ญาติจึงรวมตัวกันฟ้องคดีใหม่อีกครั้ง มีการออกหมายจับผู้ต้องหา แต่จนถึงวันนี้ เหลือเวลาเพียง 19 วันจะหมดอายุความก็ยังจับจำเลยมาขึ้นศาลไม่ได้แม้แต่คนเดียว หนึ่งในนั้นเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นอดีตแม่ทัพภาค 4 ที่ส่งหนังสือลาถึงประธานสภาฯ อ้างว่า ไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ถ้าภายในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ยังตามจำเลยขึ้นศาลไม่ได้ คดีก็จะหมดอายุความ

ธนาธร กล่าวต่อไปว่า เหตุการณ์ที่สาม มีความเหมือนกันตรงที่มันเป็นการบ่งบอกถึงการดำรงอยู่ของวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลในสังคมไทย ที่คนทำผิดไม่เคยถูกดำเนินคดีเลยสักครั้ง นี่จึงเป็นความล้มเหลวทางสามัญสำนึกครั้งใหญ่ของสังคมไทย วัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดเวลา หลายทศวรรษ แต่สังคมไทยกลับทำอะไรเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนในการปราบปรามลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เข่นฆ่าเอาชีวิตประชาชนไม่ได้เลยสักครั้ง

“วัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลนี้ไม่ใช่ความล้มเหลวของระบบ แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ระบบนี้ดำรงอยู่ได้ ระบบนี้ คือ ระเบียบทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่มีลำดับชั้นแบบจารีต ซึ่งการจะทำให้ระบบระเบียบแบบนี้ดำรงอยู่ได้ จำเป็นต้องมีวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล” ธนาธร กล่าว

 

ธนาธร ยังกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาตนได้พยายามมีส่วนร่วมในการสร้างประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตย มีสิทธิเสรีภาพ ความเจริญก้าวหน้า และความเสมอภาคเท่าเทียม ที่ผ่านมาตนได้ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาจนวันนี้ตนถูกตัดสิทธิไปแล้ว และยังเป็นจำเลยคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อีก 2 คดี จึงไม่ใช่เวลาของการท้อถอย สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2563-2564 แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเพดานความคิดของสังคมไทยก้าวหน้าไปมาก การเลือกตั้ง 2566 ก็เป็นที่ชัดเจนว่าเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 กลายเป็นเรื่องที่พูดกันได้อย่างแพร่หายในสื่อหลักและการดีเบตครั้งสำคัญของการเลือกตั้ง ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายและกลายเป็นเรื่องสามัญทุกวัน แสดงให้เห็นว่าสังคมเคลื่อนไปไกลมากและมีความก้าวหน้า ดังนั้น นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ 60 ปีที่ผ่านมา

“หลายคนผ่าน 6 ตุลาฯ 19 หลายคนผ่านพฤษภาฯ 35 หลายคนผ่านเมษา-พฤษภาฯ 53 หลายคนผ่านการชุมนุม 63-64 ถ้าที่ผ่านมาเราคิดว่า ทำได้ดีที่สุดแล้ว ผมเชิญชวนให้ทุกคนคิดว่า ดีที่สุดของเรายังไม่พอ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะมาถึง ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนในวันนี้ไม่สามารถถูกลบเลือนออกไปได้ง่าย ๆ ผมอยากเชิญชวนให้ทุกคนในวาระครบรอบ 6 ตุลาฯ มีความเข้มแข็ง และมีกำลังใจเดินหน้าต่อไปด้วยกัน เพื่อสร้างสังคมที่มีเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพต่อไป” ธนาธร กล่าว

      

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดศูนย์คำนวณอัจฉริยะใต้ทะลแห่งแรกที่มณฑลไห่หนาน
(50 สัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดโครงการผู้สูงอายุแบ่งปันความรู้เฉพาะด้าน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ปรมาจารย์ 'กังฟู' โชว์ลีลาต่อสู้พลิ้วไหวในยูนนาน
ราคาทองวันนี้ เปิดตลาดพุ่งแรง ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 51,100
ตร.รวบคู่รักจีน ถ่ายภาพหวิวริมถนนพัทยา เจ้าตัวอ้างไม่รู้ผิด กม.ไทย
"หนุ่มวิน จยย." ร่างกระเด็นไกล 50 เมตร ดับสลด หลังเสียหลักพุ่งชนคนข้ามถนน เจ็บสาหัส
อากาศวันนี้ "กรมอุตุฯ" เผยรับมืออากาศร้อนจัด เตือน 47 จว. ฝนถล่มลมกระโชกแรง
PEA เสริมมั่นคงระบบไฟฟ้า ลดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง เหตุจากต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ วัดหมอเฒ่า จังหวัดกาญจนบุรี
"กรมโยธาฯ" แถลงการณ์ ศูนย์รับแจ้งตรวจสอบเสียหาย อาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว
เกิดอะไรขึ้น? ปลาลอยเต็มคลอง “คนบางปู” ใจเสีย-หวั่นเกิดภัยธรรมชาติ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น