เสนธิการทหารยูเครน แถลงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า หน่วยขีปนาวุธของยูเครน ประสบความสำเร็จในการโจมตีคลังน้ำมันในเมืองเฟโอโดเซีย นอกชายฝั่งทางใต้ของแหลมไครเมีย ห่างจาก เซวาสโตโพล เมืองใหญ่ที่สุดในไครเมียประมาณ 150 กิโลเมตร เมื่อเช้ามืดวันที่ 7 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น
คลังน้ำมันที่เฟโอโดเซีย เป็นคลังน้ำมันใหญ่สุดในไครเมีย ในแง่ของการขนถ่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ซึ่งส่วนหนึ่งใช้ตอบสนองความต้องการของกองทัพผู้ยึดครอง ซึ่งหมายถึงรัสเซีย ที่ผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งอย่างผิดกฎหมายในปี 2557 แถลงการณ์กองทัพยูเครนระบุว่า การโจมตีเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามบั่นทอนกองทัพและก่อผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ทางการท้องถิ่นไครเมีย ที่มาจากการแต่งตั้งของรัสเซีย แจ้งว่า เกิดไฟไหม้ที่คลังน้ำมันเช้าวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม โดยไม่ได้ระบุว่าอะไรเป็นสาเหตุ แต่บอกว่า หน่วยฉุกเฉินกำลังเร่งดับไฟ และต้องปิดการจราจรบนถนนโดยรอบ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ขณะที่ชาวเมืองแจ้งว่าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งก่อนเกิดไฟไหม้ ด้าน สำนักข่าว ทาสส์ รายงานว่า ทางการท้องถิ่นประกาศภาวะฉุกเฉิน ประชาชน 300 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้
ยูเครนระบุว่าการโจมตีแหล่งพลังงานของรัสเซีย เป็นการตอบโต้แบบเสมอกัน ฐานที่รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงานของยุเครน จนทำให้ประชาชนหลายล้านไม่มีไฟฟ้าใช้บ่อยครั้ง
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ยูเครนในกรุงเคียฟ แจ้งว่า กองทัพยูเครนยิงสกัดโดรน 32 ลำ และขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก คินซาล 2 ลูก ที่พุ่งเป้าเมืองหลวงยูเครน ในคืนวันอาทิตย์เข้าสู่วันจันทร์ที่ 7 ต.ค. ขีปนาวุธคินซาลลูกหนึ่ง หลบหลีกระบบป้องกันทางอากาศ และตกใกล้กับสนามบิน สตาโร-คอสเตียน-ทินิฟ (Starokostiantyniv) ในแคว้น คเมลนิตสกี้ รัสเซียอ้างว่า ที่นั่นเป็นฐานของเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ยูเครนได้รับจากตะวันตก นายวิทาลี คลิตเชนโก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่า สะเก็ดอาวุธตกในหลายเขตของเมืองหลวง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ยูเครนยังคงมีความหวังว่า ตะวันตกจะตอบรับคำร้องขอ ให้ใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเป้าหมายในรัสเซียได้ ซึ่งคำถามนี้อาจมีคำตอบ ในการประชุมกลุ่มติดต่อด้านกลาโหมยูเครน ที่ฐานทัพอากาศรัมชไตน์ ประเทศเยอรมนี ในวันที่ 12 ตุลาคม
ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ แถลงผ่านคลิปวิดีโอเมื่อสุดสัปดาห์ ว่า สงครามอยู่ในขั้นตอนที่สำคัญ ขณะกองทัพยูเครน พยายามอย่างหนักในการยับยั้งการรุกคืบของกองทัพรัสเซียที่มีกำลังมากกว่าทางตะวันออก ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามรักษาพื้นที่ที่ยึดได้ในแคว้นคูสค์ ยูเครนจำเป็นต้องกดดัน จนรัสเซียตระหนักว่า จะไม่ได้อะไรเลยหากยังทำสงครามอยู่ต่อไป ซึ่งมีแต่ความมุ่งมั่นของพันธมิตรและความเข้มแข็งของยูเครนเท่านั้น ที่จะหยุดรัสเซียและเข้าใกล้สันติภาพได้
กลุ่มติดต่อด้านกลาโหมยูเครน ประกอบด้วยพันธมิตร 50 ประเทศนำโดยสหรัฐฯ และครอบคลุมสมาชิกนาโตทั้งหมด32 ประเทศ ประชุมกันมาแล้ว 24 ครั้งนับจากก่อตั้งในเดือนเมษายน 2565 การประชุมครั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นครั้งแรกที่เป็นการประชุมระดับผู้นำ
Reportedly, this video was filmed in the first hours after last night's attack on the oil depot in Feodosia, occupied Crimea.
300 people were evacuated, Russian media reported. https://t.co/YiZQy4EKMh pic.twitter.com/6ckhr6WsZG
— Anton Gerashchenko (@Gerashchenko_en) October 7, 2024