“ตำรวจ” เตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกลงทุนธุรกิจขายตรง เบื้องหลังเป็นแชร์ลูกโซ่ พร้อมแนะ 6 ข้อสังเกต

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนระวังมิจฉาชีพหลอกลงทุนธุรกิจขายตรง ใช้กลวิธีหลอกลวง เบื้องหลังเป็นแชร์ลูกโซ่ พร้อมแนะ 6 ข้อสังเกตง่ายๆ

“ตำรวจ” เตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกลงทุนธุรกิจขายตรง เบื้องหลังเป็นแชร์ลูกโซ่ พร้อมแนะ 6 ข้อสังเกต – Top News รายงาน

วันนี้ (9 ตุลาคม 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ

โดยในอดีตที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนจำนวนมากได้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของการชักชวนให้ลงทุนในธุรกิจ ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือการจัดสัมมนาในความรู้ บางครั้งก็จะมาในรูปแบบของการลงทุนในธุรกิจ บางครั้งก็มาในรูปแบบของการขายตรง หลอกลวงว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง และมักจะมีรายได้จากการชักชวนสมาชิกใหม่มาร่วมธุรกิจ เช่น คดียูฟัน (Ufund) คดีแม่ชม้อย คดี FOREX-3D เป็นต้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังในการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจลักษณะขายตรง ที่อาจเข้าข่ายเป็นขบวนการแชร์ลูกโซ่ หรือหลอกลวงประชาชน โดยมีข้อสังเกตดังนี้

1. โมเดลแชร์ลูกโซ่ – หากโครงสร้างธุรกิจเน้นการรับสมัครคนใหม่เข้าร่วมมากกว่าการขายสินค้าหรือบริการจริง โมเดลนี้ทำให้รายได้หลักมาจากการชักชวนสมาชิกใหม่และเก็บเงินค่าสมัคร แทนที่จะเกิดจากการขายสินค้า
2. การขายสินค้าหรือบริการที่ไม่ตรงความจริง – หากสินค้าหรือบริการที่เสนอขายไม่มีคุณภาพ ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่โฆษณาไว้ หรือไม่มีสินค้าจริงในการจำหน่าย แต่มีการหลอกลวงเพื่อเก็บเงินจากผู้ร่วมธุรกิจ
3. การบังคับซื้อสินค้าหรือการลงทุนจำนวนมาก – หากบริษัทบังคับให้ผู้สมัครเข้าร่วมต้องลงทุนจำนวนมากในการซื้อสินค้าเกินความจำเป็น หรือกักตุนสินค้าโดยไม่สามารถขายออกได้จริง
4. การใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือหลอกลวง – หากบริษัทนำเสนอข้อมูลทางธุรกิจหรือรายได้ที่เกินจริง โฆษณาผลตอบแทนที่สูงเกินจริงโดยไม่สามารถทำได้ตามสัญญา

 

5. การไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง – ธุรกิจขายตรงในประเทศไทยต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
6. ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภค – หากธุรกิจไม่ให้ข้อมูลที่ชัดเจนแก่ผู้บริโภค ไม่สามารถคืนเงินหรือเปลี่ยนสินค้าตามที่กฎหมายกำหนด หรือไม่มีการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้บริโภค ก็อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย

โดยถ้าพี่น้องประชาชนพบเห็นธุรกิจในลักษณะดังกล่าว หรือสงสัยว่าอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 เพื่อที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

5 คน 5 วีรกรรม “สส.พรรคส้ม” โดนยื่นป.ป.ช.สอบจริยธรรม “ดร.ทัน” ร้องกราวรูด “แก้วตา-ไอซ์-โตโต้-ลูกเกด-หมอออย”
ตม.จว.จันทบุรี สกัดรถลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ผงะหลังเปิดประตูรถออกมาพบ 15 กัมพูชา อัดแน่น
ตำรวจ สภ.เกาะทวดปากพนังจับอดีตนายก อบต. 2 สมัยพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังค้ายาบ้า-ซุกในกางกงใน 100 เม็ด
ไม่นิ่งเฉย "ปปง." เร่งตรวจสอบ "ดิ ไอคอน" อาจเข้าข่ายผิดฐานฟอกเงิน ยันการตรวจสอบใช้เวลาไม่นาน
"อยุธยา" ชาวบ้าน อ.เสนา ยังระทมทุกข์ น้ำท่วมสูง 3 เมตร นาน 3 เดือน ยายวัย 86 ลั่นขอตายในบ้านจะไม่หนีไปไหน
"ทนายตั้ม" จับมือ "อี้ แทนคุณ" หอบหลักฐาน แจ้งเอาผิด บอสบริษัทดัง ผิดฐานฉ้อโกง ฟอกเงิน พรบ.คอมพ์
วันไข่โลก รักใครให้กินไข่
ฟิลิปปินส์ท้าทายจีนเรื่องทะเลจีนใต้ ในประชุมอาเซียน
"สุริยะ" ยัน "ทักษิณ" ไม่ก้าวก่ายเพื่อไทย ไม่จำเป็นต้องแจง 6 ข้อ หลัง "ธีรยุทธ" ยื่นศาลรธน.
แลร์รี แมวเซเลปเมินเซเลนสกี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น