“ผู้เสียหาย” ร้อง “ทนายเดชา” ถูกชวนทำธุรกิจขายตรงออนไลน์ สูญเงินเกือบคิดสั้น เผยหลงเชื่อเพราะมีดาราดัง-อินฟลูฯ เป็นพรีเซ็นเตอร์

"ผู้เสียหาย" ร้อง "ทนายเดชา" ถูกชวนทำธุรกิจขายตรงออนไลน์ สูญเงินเกือบคิดสั้น เผยหลงเชื่อเพราะมีดาราดัง-อินฟลูฯ เป็นพรีเซ็นเตอร์

Top news รายงาน เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมา (9ต.ค.) นางวิภารัตน์ เจริญสุข ช่างเสริมสวย วัย 63 ปี ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายจากบริษัทดังกล่าวเข้าร้องกับ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ ซอยรามอินทรา 52/1 เพื่อให้ช่วยดำเนินคดีหลังถูกหลอกลงทุนสูญเงินหลักล้านบาท

 

 

นางวิภารัตน์ เปิดเผยว่า ไปสมัครสมาชิก ช่วงที่โควิดมาใหม่ๆ ประมาณปี 63 ไม่มีรายได้ จู่ๆ ก็มีแม่ทีมที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทดังกล่าว ขอเพิ่มเพื่อนในเฟซบุ๊ก ตอนเเรกก็สังสัยว่าเป็นใคร เพราะรูปโปรไฟล์ถ่ายรูปคู่กับสินค้าเรียงเต็มอยู่ข้างหลังจนได้เป็นเพื่อนกัน แม่ทีมคนนี้ได้คำแนะนำให้เธอเข้าเป็นไปลูกทีม ซึ่งเธอฟังก็รู้สึกเชื่อถือ และคิดว่าเป็นของแปลกใหม่ เป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ดี จึงได้สมัครเข้าไป ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 2,500 บาท พอสมัครเสร็จแล้ว ก็ได้เข้าไปพบกับบุคคลที่เรียกกันว่า “บอส” และได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสินค้า พร้อมพูดถึงประวัติความเป็นมาของตัว “บอสเอง” ก็ยิ่งทำให้น่าเชื่อถือ จึงได้จ่ายเงินเพิ่มอีก 25,000 บาท เป็นการเพิ่มดีกรีให้ตัวเองเป็นอีกขั้นหนึ่งของตัวแทนจำหน่าย และเสียค่าไปเที่ยวกับบริษัทเหมือนการสัมมนาอีก 25,000 บาท รวมทั้งหมดวันนั้นเสียค่าใช้จ่าย 52,500 บาท

ข่าวที่น่าสนใจ

ตลอดที่เธออยู่ ผู้ที่อบรมของบริษัทนี้ ไม่เคยสอนการขายสินค้าออนไลน์เลย สอนแต่การตัดคลิป การยิงแอด และการเชิญชวนคนเข้าเครือข่าย ซึ่งเธอได้พบเจอกับดาราที่เข้ามาเป็นพรีเซนเตอร์เชิญชวนซื้อสินค้าต่างๆ ของบริษัท จนเริ่มทำมา 5-6 เดือน ก็เริ่มที่จะขายไม่ได้ จึงได้ไปปรึกษากับแม่ข่าย ก็ได้แนะนำให้ยิงแอดเพิ่ม และให้ชักชวนคนเข้ามาเป็นเครือข่ายเพิ่มเติมอีก ไม่ได้แนะนำวิธีการขายสินค้าเพิ่มเลย จึงมองว่าไม่คุ้มค่ากับการลงทุน หรือจ่ายเงินไปกว่า 5 แสนบาท เพื่อเลื่อนระดับ

เช่นเดียวกับคุณตั้ม นักลงทุนที่เคยลงทุนทำธุรกิจร่วมกับบริษัทขายตรงชื่อดัง ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในเวลานี้ ได้เล่าถึงรูปแบบธุรกิจ วิธีการลงทุน รวมไปถึงประสบการณ์ที่เคยเจอในระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับบริษัทขายตรงออนไลน์ชื่อดัง ว่า ย้อนไปเมื่อปี 2565 เห็นโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทดังกล่าว คิดว่าน่าสนใจ และน่าเชื่อถือ เพราะมีดาราชื่อดัง และอินฟลูเอ็นเซอร์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ พูดจาโน้มน้าวชักชวนให้ลงทุน ใช้คำพูดสวยหรู ตนเองจึงไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน จำนวน 250,000 บาท ตนเองอยู่ในเครือข่ายหนึ่ง มีบอส 3 คน เป็นหัวหน้าทีม

 

 

สำหรับรูปแบบการลงทุนจะมีอยู่ 3 ระดับ ระดับล่างสุดลงทุน 2,500 บาท จะได้สินค้า และผลิตภัณฑ์มากินมาใช้เอง ระดับกลาง 25,000 บาท จะได้สินค้า และเป็นดีลเลอร์ตัวแทนการขาย และระดับพรีเมี่ยม ลงทุน 250,000 บาท จะได้สินค้า และเป็นดีลเลอร์ระดับพรีเมี่ยม และมีสิทธิ์เข้าเรียนคอร์สออนไลน์ สอนการยิงแอดโฆษณา ที่ตนเองตัดสินใจลงทุนระดับพรีเมี่ยม 250,000 บาท เพราะแม่ข่าย หรือบอสในสายตนเองยืนยันว่า จะคืนกำไรอย่างรวดเร็ว จึงหลงเชื่อ เมื่อลงทุนก็จะได้สินค้าเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์เสริมความงามมาขาย แต่บริษัทมีเงื่อนไขว่า จะเก็บสินค้าไว้ให้ ถ้าอยากจะขายก็เบิกไปได้ เพราะต้องการให้สินค้าได้มาตรฐานไม่เสื่อมคุณภาพ

ตอนนั้น ยอมรับว่า ไม่มีความรู้เรื่องขายของออนไลน์ จึงต้องเข้าไปเข้าเรียนคอร์สขายของออนไลน์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่บริษัทไม่บังคับ แต่บริษัทจะบอกว่า ถ้าไม่เรียนคอร์สขายของออนไลน์ ก็จะไม่รู้เทคนิคต่างๆ หรือลูกค้า ในโลกออนไลน์ไม่เห็นสินค้าเรา ตนเองจึงต้องเรียน จนกระทั่งเวลาผ่านไปก็ขายของไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องนำสินค้าดังกล่าวไปแจกจ่าย หรือขายให้ญาติพี่น้อง ตนเองจึงไปขอความช่วยเหลือจากบริษัท และแม่ข่าย แต่กลับได้รับคำตอบกลับมาว่า เป็นเพราะตนเองไม่ขวนขวายเอง ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทุกวันนี้ยังคงก้มหน้าหาเงินมาใช้หนี้ จนเกิดความเครียด และทุกข์เป็นอย่างมาก

 

 

ทั้งนี้ ทนายเดชา กล่าวว่า จากการดูพฤติการณ์แล้ว คาดว่าเครือข่ายดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” เนื่องจากรูปแบบธุรกิจขายตรง ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วย พ.ร.บ.ขายตรงฯ กำหนดไว้ อีกทั้งมีการโน้มน้าวให้สมัคร และหาสมาชิก แทนที่จะขายสินค้า อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทีมพนักงานสอบสวนหลายนาย เข้ามาดูแลในประเด็นนี้แล้ว ซึ่งตนเองจะนำผู้เสียหายบางส่วนเข้าแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในเวลา 10.00 น. วันพรุ่งนี้(10 ต.ค.) พร้อมฝากไปยังผู้เสียหายที่เชื่อว่าอาจตกเป็นเหยื่อให้มาแจ้งความพร้อมกันได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ลั่นกลองรบ! ศึกชิงเมืองเสื้อแดง "พท." หวังตรึงฐานที่มั่น "พรรคส้ม" หวังฟลุ๊คขี่พายุส้ม
“บอย ปกรณ์” เปิดใจ รับโง่เอง เผชิญหน้าเหยื่อ เสียงสั่น ยกมือไหว้ขอโทษ ลั่นพร้อมหัก “ดิ ไอคอน”
“ภูมิธรรม” ไม่กังวล 1,000% หลัง “ธีรยุทธ” ยื่นศาลรธน.ฟ้องทักษิณ-เพื่อไทย ชี้ปม “พิศาล” คดีตากใบ รอความชัดเจน ต้องพ้นสส.หรือไม่
ตร.ตามรวบ "หนุ่มใหญ่" อ้างน้อยใจไม่ได้เงินหมื่น แอบย่องฉกก๊อกน้ำ-ทองเหลืองของรร.
“สมศักดิ์” เชื่อรัฐบาลไม่สะดุดซ้ำรอย“เศรษฐา” ชี้ หน้าที่ฝ่ายกฎหมายต่อสู้ปมคำร้อง 6 ประเด็น หวังยุบพรรคเพื่อไทย
“ธีรยุทธ” เปิดใจ ท็อปนิวส์ เผยจุดน็อค “ทักษิณ-พท.” ยันไม่ได้จับมือพปชร.ทำนิติสงคราม
"มงคลกิตติ์" ลุยเมืองหลวง ดูน้ำเจ้าพระยา เชื่อไม่มีพายุเพิ่ม กทม.น้ำไม่ท่วม แต่เตรียมพร้อมรับมือ
"คปภ.เชียงใหม่" ชี้ทางออกเคลมบ้าน-รถน้ำท่วมล่าช้า
5 คน 5 วีรกรรม “สส.พรรคส้ม” โดนยื่นป.ป.ช.สอบจริยธรรม “ดร.ทัน” ร้องกราวรูด “แก้วตา-ไอซ์-โตโต้-ลูกเกด-หมอออย”
ตม.จว.จันทบุรี สกัดรถลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ผงะหลังเปิดประตูรถออกมาพบ 15 กัมพูชา อัดแน่น

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น