นาโตมั่นใจ ทรัมป์ อยู่ฝ่ายยูเครน
เลขาฯนาโตแสดงความมั่นใจ ทรัมป์จะเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องช่วยยูเครน พร้อมแบ่งรับแบ่งสู้ ลูกตื๊อของเซเลนสกี ที่ต้องการยิงขีปนาวุธตะวันตก เข้าไปในดินแดนรัสเซีย
มาร์ค รุตเต้ เลขาธิการนาโต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว หลังพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน โดยรุตเต้ได้กล่าวเมื่อถูกถามถึงอนาคตของยูเครน กับโดนัล ทรัมป์ที่อาจมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไปว่า ตนรู้จักเขาดี เพราะเคยทำงานร่วมกันตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ตนรู้ดีว่า ทรัมป์จะเข้าใจดีและเห็นด้วยกับตนว่า การต่อสู้ในยูเครนครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับยูเครนเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงในอนาคตของสหรัฐด้วย และตนก็ไม่กังวลที่ทรัมป์จะถอนความช่วยเหลือยูเครน สหรัฐจะเข้าใจดีว่า สหรัฐทั้งหมดจะปลอดภัยน้อยลง หากปูตินประสบความสำเร็จในยูเครน
ทั้งนี้ รุตเต้ได้กล่าวถึงการหารือกับสตาร์เมอร์และเซเลนสกีว่า เราไม่ได้สนใจเรื่องนี้เพียงเพราะเราต้องการสนับสนุนยูเครนเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะว่าการสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัยร่วมกันของเราในยุโรป รวมถึงในแคนาดา ในสหรัฐ และทั่วทั้งดินแดนนาโตด้วย เพราะถ้าปูตินได้สิ่งที่ต้องการในยูเครน นั่นจะหมายถึงผลกระทบด้านความมั่นคงที่ร้ายแรง สำหรับทุกประเทศสมาชิกของนาโต
รุตเต้กล่าวต่อถึงคำขอของเซเลนสกี ที่จะใช้อาวุธพิสัยไกลที่ของพันธมิตร เพื่อโจมตีเป้าหมายทางทหารในส่วนลึกของรัสเซียว่า ในทางกฎหมายแล้ว เป็นไปได้ เพราะตามกฎหมาย ยูเครนได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธ หากสามารถโจมตีเป้าหมายในรัสเซียได้ รวมถึงหากเป้าหมายเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อยูเครน แต่สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับพันธมิตรแต่ละราย พันธมิตรแต่ละรายจะเป็นผู้ตัดสินเองว่า ทำได้หรือไม่
ในการหารือร่วมกัน เซเลนสกียังคงเดินหน้ายื่นแผนชัยชนะของเขา พร้อมทวงถามสัญญาที่จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ ในการประชุมครั้งต่อไปของประเทศพันธมิตร โดยเซเลนสกยืนกรานว่า ยูเครนจำเป็นต้องเข้าร่วมนาโตอย่างเร่งด่วน และยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธตะวันตก โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย, การเสริมความแข็งแกร่งของยูเครนด้วยระบบการป้องกันใหม่, และการเสริมสร้างโอกาสทางการบิน อย่างการลงทุนของพันธมิตรในการผลิตกระสุน โดรน และยานยนต์พิสัยไกลสำหรับยูเครน
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องยูเครนหลายราย ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ภารกิจหลักของเซเลนสกีคือ การดึงนาโตเข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย ดังนั้น เซเลนสกีจะทำการกดดันพันธมิตรต่อไป เซเลนสกีจะไม่ต้องการสันติภาพ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม เพราะนั่นจะหมายถึงจุดจบทางการเมืองและการปกครองประเทศของตัวเอง
